หากคุณเคยติดตามซีรีส์การเมืองเกาหลีชื่อดังอย่าง “Chief of Staff” (보좌관) คุณคงจะคุ้นเคยกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเกมการเมืองอันเข้มข้น การต่อรองเชิงกลยุทธ์ และบทบาทเบื้องหลังที่สำคัญไม่แพ้ตัวนักการเมืองเอง ซึ่งก็คือ “Chief of Staff” หรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ที่คอยขับเคลื่อนกลยุทธ์และวางแผนทุกหมากสำคัญขององค์กร
ในซีรีส์ เราได้เห็นตัวละครหลักอย่าง จางแทจุน (Jang Tae-jun) ผู้มากความสามารถในด้านการวิเคราะห์สถานการณ์ การจัดการวิกฤต และการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ ทั้งหมดนี้คือทักษะที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่สำคัญในองค์กรธุรกิจระดับสูงอีกด้วย

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า…
ในโลกของการบริหารองค์กรที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตำแหน่ง Chief of Staff (CoS) หรือหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารกลายเป็นบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนอาจนึกถึงบุคลากรที่มีพื้นฐานด้านการจัดการหรือกลยุทธ์เป็นหลัก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ นักประชาสัมพันธ์ (PR Professionals) กลับมีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการก้าวขึ้นสู่บทบาทนี้
ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกว่า ทำไมนักประชาสัมพันธ์ถึงเหมาะสมกับบทบาท Chief of Staff ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมเผยเคล็ดลับในการพัฒนาทักษะเพื่อก้าวสู่เส้นทางใหม่ที่ท้าทายนี้
✨ ทำไม “นักประชาสัมพันธ์” ถึงเหมาะกับตำแหน่ง Chief of Staff?
1. ทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Communication Skills)
นักประชาสัมพันธ์คือผู้เชี่ยวชาญในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารภายในองค์กร หรือการจัดการกับสาธารณชน พวกเขาสามารถแปลงสารที่ซับซ้อนให้กลายเป็นข้อความที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และสร้างความน่าเชื่อถือได้
ในบทบาท Chief of Staff การสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนงาน ทั้งการประสานงานระหว่างทีม การนำเสนอวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กร ไปจนถึงการจัดการกับสถานการณ์วิกฤต การที่นักประชาสัมพันธ์มีทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์อยู่แล้ว ทำให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการสารสำคัญได้อย่างมีประสิทธิผล
2. ความสามารถในการบริหารวิกฤต (Crisis Management Skills)
หนึ่งในทักษะที่นักประชาสัมพันธ์ชำนาญคือ การจัดการวิกฤต (Crisis Management) พวกเขารู้วิธีการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด การควบคุมกระแสข่าว และการฟื้นฟูภาพลักษณ์องค์กรให้กลับมาเป็นบวกได้อย่างรวดเร็ว
Chief of Staff ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่มีความกดดันสูงอยู่เสมอ การมีพื้นฐานการจัดการวิกฤตทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน และสามารถช่วยผู้นำองค์กรวางแผนรับมือกับความท้าทายได้อย่างชาญฉลาด

3. ความเชี่ยวชาญในการสร้างความสัมพันธ์ (Relationship Building Skills)
นักประชาสัมพันธ์รู้ว่าการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ พวกเขามีความสามารถในการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ในบทบาท Chief of Staff การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยในการประสานงานระหว่างทีมงานต่าง ๆ แต่ยังช่วยให้การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ขององค์กรราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับองค์กร (Organizational Awareness)
นักประชาสัมพันธ์มักทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูงและเข้าใจถึงโครงสร้างองค์กร วัฒนธรรมองค์กร รวมถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายหลักได้เป็นอย่างดี ความเข้าใจเชิงลึกนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถเชื่อมโยงกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
Chief of Staff จำเป็นต้องมีภาพรวมขององค์กรที่ชัดเจน เพื่อวางแผนกลยุทธ์และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ นักประชาสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ในการทำงานเชิงองค์กรจึงสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในบทบาทนี้
5. ความสามารถในการจัดการหลายงานพร้อมกัน (Multitasking and Project Management Skills)
งานของนักประชาสัมพันธ์มักต้องรับผิดชอบหลายโปรเจกต์ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่การวางแผนแคมเปญ การจัดงานอีเวนต์ การเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ ไปจนถึงการจัดการสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งต้องใช้ทักษะในการบริหารจัดการเวลาและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
Chief of Staff ต้องรับผิดชอบงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานภายใน การจัดการโครงการสำคัญ หรือการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ทักษะการจัดการหลายงานพร้อมกันจึงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับนักประชาสัมพันธ์ที่ก้าวเข้าสู่บทบาทนี้
🚀 กรณีตัวอย่าง: นักประชาสัมพันธ์ที่ก้าวสู่บทบาท Chief of Staff ได้อย่างโดดเด่น
• Katie Burke (Chief People Officer, HubSpot): ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง Chief People Officer เธอเคยทำงานในด้านการสื่อสารองค์กร ซึ่งทำให้เธอมีทักษะในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและการบริหารความสัมพันธ์ภายในองค์กร
• Jen Psaki (อดีต White House Communications Director): หลังจากประสบความสำเร็จในการทำงานด้านประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร เธอได้ก้าวขึ้นสู่บทบาทที่ต้องรับผิดชอบในระดับนโยบายและการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์
💡 ทักษะที่นักประชาสัมพันธ์ควรพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อมสู่บทบาท Chief of Staff
1. การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking): พัฒนาทักษะในการมองภาพรวมและการวางแผนระยะยาว
2. การตัดสินใจเชิงวิเคราะห์ (Analytical Decision Making): เสริมสร้างความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
3. ความเป็นผู้นำ (Leadership): เรียนรู้วิธีการนำทีมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
4. ทักษะทางการเงิน (Financial Acumen): ทำความเข้าใจพื้นฐานทางการเงินและงบประมาณเพื่อบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management): เตรียมพร้อมในการจัดการการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอย่างยืดหยุ่นและสร้างสรรค์
📢 บทสรุป
นักประชาสัมพันธ์ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ในการจัดการภาพลักษณ์องค์กรเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการก้าวขึ้นสู่บทบาท Chief of Staff ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ การจัดการวิกฤต ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ รวมถึงความเข้าใจในโครงสร้างองค์กรอย่างลึกซึ้ง
หากคุณเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่กำลังมองหาเส้นทางอาชีพใหม่ บทบาท Chief of Staff อาจเป็นก้าวต่อไปที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณได้อย่างแท้จริง 🚀✨
FAQs: จาก PR สู่ CoS: เพิ่มมูลค่าอาชีพ สร้างโอกาสใหม่ในองค์กรใหญ่
Q1: นักประชาสัมพันธ์ (PR) มีคุณสมบัติใดที่เหมาะกับบทบาท Chief of Staff (CoS)?
A1: นักประชาสัมพันธ์มีทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์, การบริหารวิกฤต, ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์, ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับองค์กร และทักษะในการจัดการหลายงานพร้อมกัน ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติสำคัญในการทำหน้าที่ Chief of Staff ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q2: การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ช่วยให้นัก PR ทำหน้าที่ Chief of Staff ได้อย่างไร?
A2: การสื่อสารเชิงกลยุทธ์ช่วยให้นัก PR สามารถถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กรอย่างชัดเจน จัดการสารสำคัญได้อย่างมีประสิทธิผล และเสริมสร้างการทำงานร่วมกันในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q3: นัก PR จะใช้ทักษะการจัดการวิกฤตในบทบาท Chief of Staff อย่างไร?
A3: พวกเขาสามารถวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตอย่างรวดเร็ว วางแผนรับมืออย่างมีระบบ และสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารในสถานการณ์ที่กดดันได้อย่างมั่นใจ
Q4: ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์สำคัญต่อบทบาท Chief of Staff อย่างไร?
A4: Chief of Staff ต้องประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร นัก PR มีทักษะในการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและเกิดความร่วมมือที่ดี
Q5: นัก PR ต้องพัฒนาทักษะใดเพิ่มเติมเพื่อก้าวสู่บทบาท Chief of Staff?
A5: ทักษะที่ควรพัฒนาเพิ่มเติม ได้แก่ การคิดเชิงกลยุทธ์, การตัดสินใจเชิงวิเคราะห์, ภาวะผู้นำ, ความเข้าใจทางการเงิน และการบริหารการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
Q6: มีตัวอย่างของนัก PR ที่ประสบความสำเร็จในบทบาท Chief of Staff หรือไม่?
A6: มีตัวอย่างเช่น Katie Burke (Chief People Officer, HubSpot) และ Jen Psaki (อดีต White House Communications Director) ที่ใช้ทักษะ PR มาขับเคลื่อนบทบาทบริหารในองค์กรได้อย่างยอดเยี่ยม
Q7: นัก PR จะเริ่มต้นเส้นทางสู่ตำแหน่ง Chief of Staff ได้อย่างไร?
A7: เริ่มจากการเพิ่มบทบาทในการบริหารโครงการเชิงกลยุทธ์ ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูง และขยายทักษะในการวิเคราะห์และการตัดสินใจเชิงธุรกิจ
Q8: บทบาทของ Chief of Staff แตกต่างจากนัก PR อย่างไร?
A8: Chief of Staff เน้นการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การประสานงานระดับสูง และการบริหารทรัพยากรในองค์กร ในขณะที่นัก PR เน้นการจัดการภาพลักษณ์และการสื่อสารกับสาธารณชน
Q9: ทำไมนัก PR ถึงมีข้อได้เปรียบในการเป็น Chief of Staff มากกว่าสายงานอื่น?
A9: เพราะนัก PR มีมุมมองเชิงกลยุทธ์ ความยืดหยุ่นในการจัดการวิกฤต และความสามารถในการเข้าใจทั้งมุมมองภายในและภายนอกองค์กร ทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
Q10: การมี Chief of Staff ที่มีพื้นฐานจาก PR จะส่งผลดีต่อองค์กรอย่างไร?
A10: จะช่วยให้องค์กรมีการสื่อสารภายในที่ชัดเจน การจัดการวิกฤตอย่างมีประสิทธิภาพ และความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจ
เรียบเรียงโดย

สราวุธ บูรพาพัธ
สราวุธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต
จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย