fbpx

สรุปฟีเจอร์ใหม่โซเชียลมีเดียประจำสัปดาห์: สิ่งที่นัก PR และนักการตลาดต้องรู้

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ของโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ “ข่าวใหม่” แต่เป็น “เครื่องมือสำคัญ” สำหรับนักประชาสัมพันธ์และนักการตลาดที่ต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หากคุณพลาดแม้แต่นิดเดียว อาจทำให้แคมเปญประชาสัมพันธ์ของคุณล้าหลังไปหนึ่งก้าว

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกอัพเดทล่าสุดของโซเชียลมีเดีย พร้อมแนะนำวิธีการนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์และการตลาดอย่างเต็มที่

โซเชียลมีเดีย

1. Instagram เพิ่มฟีเจอร์ “Broadcast Channels” – สร้างพื้นที่สำหรับการสื่อสารโดยตรงกับแฟนคลับ

Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Broadcast Channels” ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์และแบรนด์สามารถส่งข้อความแบบ one-to-many ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทข่าวสาร ข้อความเสียง หรือแชร์รูปภาพโดยตรงกับผู้ติดตามที่สนใจจริง ๆ

ทำไมฟีเจอร์นี้สำคัญสำหรับนัก PR และนักการตลาด?

• เพิ่มการเข้าถึงแบบตรงจุด: ไม่ต้องกังวลว่าข้อความจะหายไปใน feed ผู้ติดตามอีกต่อไป

• เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรม: เช่น การประกาศเปิดตัวสินค้าใหม่ โปรโมชั่น หรือการสื่อสารด่วน

• สร้างความใกล้ชิด: เพิ่มความรู้สึกเป็นกันเองระหว่างแบรนด์กับลูกค้า

กลยุทธ์การใช้งาน:

• ใช้สำหรับการอัพเดทข่าว PR หรือแจ้งเตือนแคมเปญพิเศษ

• สร้างความเป็นเอกลักษณ์ในการสื่อสาร เช่น ส่งข้อความเสียงจาก CEO ของบริษัท

2. LinkedIn เปิดตัว “Collaborative Articles” – เนื้อหาที่สร้างโดยชุมชนเพื่อความน่าเชื่อถือที่มากขึ้น

LinkedIn เน้นการสร้างคอนเทนต์ที่มาจากประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม ผ่านฟีเจอร์ใหม่ “Collaborative Articles” ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถร่วมกันเขียนบทความในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับอาชีพหรือธุรกิจ

ข้อดีสำหรับนักประชาสัมพันธ์:

• เพิ่มโอกาสในการสร้าง Thought Leadership: นัก PR สามารถผลักดันผู้บริหารหรือบุคลากรในองค์กรให้มีบทบาทในการสร้างเนื้อหา

• ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ: บทความที่เขียนร่วมกันช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกแชร์ในวงกว้าง

เทคนิคในการใช้งาน:

• เชิญชวน Influencer หรือพันธมิตรทางธุรกิจร่วมเขียนบทความเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

• ใช้ Collaborative Articles เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Content Marketing

3. TikTok เปิดตัว “Series” – ช่องทางใหม่สำหรับเนื้อหาเชิงลึก

สำหรับ TikTok ที่เน้นเนื้อหาวิดีโอสั้นเป็นหลัก ล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Series” ที่อนุญาตให้ครีเอเตอร์โพสต์วิดีโอความยาวสูงสุด 20 นาที และจัดเรียงเป็นซีรีส์ เพื่อเล่าเรื่องราวอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์สำหรับการประชาสัมพันธ์:

• สร้างเนื้อหาเชิงลึก: เหมาะสำหรับการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในรูปแบบซีรีส์ เช่น Documentary หรือแคมเปญ CSR

• เพิ่ม Engagement: ผู้ชมสามารถติดตามเนื้อหาได้ต่อเนื่อง ทำให้เกิดความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

กลยุทธ์การใช้งาน:

• ใช้สำหรับแคมเปญ “Behind the Scenes” เพื่อเผยเบื้องหลังการทำงานของแบรนด์

• สร้างเนื้อหาเชิงความรู้ เช่น “How-To Series” หรือ “Case Study Series”

4. X (Twitter) เพิ่มตัวเลือก “Ad-Free Subscription” – การสื่อสารแบบใหม่ที่เน้นคุณภาพมากขึ้น

แพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ได้เปิดตัวบริการสมัครสมาชิกแบบไร้โฆษณา ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีการทำโฆษณาของนักการตลาดและนักประชาสัมพันธ์

ข้อควรรู้:

• การเข้าถึงที่มีคุณภาพ: แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนเลือกไม่เห็นโฆษณา แต่แบรนด์ยังสามารถใช้กลยุทธ์ PR เช่น การสร้าง Content ที่เน้นคุณค่าและเนื้อหาน่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจได้

• เน้น Organic Reach: การสร้างเนื้อหาที่แชร์ต่อกันได้เองเป็นหัวใจสำคัญ

กลยุทธ์การใช้งาน:

• ลงทุนกับเนื้อหาที่สร้างการมีส่วนร่วมสูง เช่น Threads ที่บอกเล่าเรื่องราวอย่างน่าสนใจ

• ใช้ Influencer หรือ Brand Ambassador ในการช่วยกระจายข่าวสาร

5. Meta พัฒนา AI สำหรับการสร้างโฆษณาแบบอัตโนมัติ

Meta กำลังทดลองระบบ AI ที่สามารถสร้างโฆษณาอัตโนมัติ โดยใช้ข้อมูลจากแคมเปญที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาใหม่

ข้อดีสำหรับนักประชาสัมพันธ์:

• ประหยัดเวลาในการสร้างคอนเทนต์: ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ทุกครั้ง

• เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย: AI จะช่วยปรับแต่งข้อความให้ตรงกับความสนใจของผู้ชม

กลยุทธ์การใช้งาน:

• ใช้ AI เพื่อทดสอบ A/B Testing หลาย ๆ รูปแบบพร้อมกัน

• ตรวจสอบผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง

6. YouTube เพิ่มฟีเจอร์ “AI-Powered Insights” สำหรับนักการตลาด

YouTube เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการรับชม เพื่อช่วยนักการตลาดเข้าใจพฤติกรรมของผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น

ข้อดี:

• เข้าใจผู้ชมมากขึ้น: วิเคราะห์ได้ว่าผู้ชมสนใจเนื้อหาแบบไหน

• ปรับปรุงแคมเปญได้รวดเร็ว: ใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจในการปรับแผนการประชาสัมพันธ์

กลยุทธ์การใช้งาน:

• วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงเนื้อหาวิดีโอให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

• ใช้ Insights เพื่อเลือก Influencer หรือ Content Creator ที่เหมาะสมกับแคมเปญ

บทสรุป: การอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ = โอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ

การอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ของโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางเทคนิค แต่เป็นโอกาสสำหรับนักประชาสัมพันธ์และนักการตลาดในการสร้างสรรค์แคมเปญใหม่ ๆ ที่ทรงพลัง

หากคุณต้องการความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง อย่ามองข้ามการเรียนรู้และทดลองใช้ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ เพราะมันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่ความสำเร็จครั้งต่อไปของคุณ


FAQs: สรุปฟีเจอร์ใหม่โซเชียลมีเดียประจำสัปดาห์: สิ่งที่นัก PR และนักการตลาดต้องรู้

Q1: ฟีเจอร์ใหม่ของ Instagram “Broadcast Channels” คืออะไร?

A1: “Broadcast Channels” เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์หรือแบรนด์สามารถส่งข้อความแบบ one-to-many โดยตรงถึงผู้ติดตาม เช่น ข่าวสาร, ข้อความเสียง, หรือรูปภาพ เพื่อการสื่อสารที่ตรงจุดและเพิ่มการมีส่วนร่วมได้มากขึ้น

Q2: นักประชาสัมพันธ์ควรใช้ฟีเจอร์ “Collaborative Articles” บน LinkedIn อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด?

A2: ควรใช้ในการสร้าง Thought Leadership โดยชวนผู้เชี่ยวชาญหรือผู้บริหารในองค์กรร่วมเขียนบทความ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายเครือข่ายทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน

Q3: TikTok “Series” เหมาะกับแคมเปญประชาสัมพันธ์แบบไหน?

A3: เหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการเล่าเรื่องเชิงลึก เช่น แคมเปญ CSR, เบื้องหลังการทำงานของแบรนด์, หรือวิดีโอความรู้ที่ต้องการสร้างความผูกพันกับผู้ชมในระยะยาว

Q4: การสมัครสมาชิกแบบ “Ad-Free” บน X (Twitter) มีผลกระทบต่อการทำ PR อย่างไร?

A4: ทำให้การโฆษณาแบบเสียเงินเข้าถึงผู้ใช้น้อยลง แต่เป็นโอกาสสำหรับนัก PR ในการสร้างคอนเทนต์ที่เน้น Organic Reach ผ่านการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและใช้ Influencer เพื่อกระจายข่าวสาร

Q5: Meta ใช้ AI เพื่อสร้างโฆษณาอัตโนมัติอย่างไร?

A5: Meta ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากแคมเปญที่ผ่านมา เพื่อสร้างโฆษณาที่ปรับแต่งข้อความและภาพให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการโฆษณา

Q6: ฟีเจอร์ “AI-Powered Insights” บน YouTube มีประโยชน์ต่อกลยุทธ์ PR อย่างไร?

A6: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ชม ทำให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

Q7: จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามด้วย “Broadcast Channels” ได้อย่างไร?

A7: ใช้ในการส่งข่าวสารสำคัญ เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ โปรโมชั่น หรือกิจกรรมพิเศษ พร้อมใส่เนื้อหาที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ข้อความเสียงจากผู้บริหาร หรือเบื้องหลังสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

Q8: การสร้างคอนเทนต์แบบไหนที่เหมาะกับ “Collaborative Articles”?

A8: คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์อุตสาหกรรม บทความเชิงวิชาการ หรือเคสศึกษาที่มีมุมมองหลากหลายจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา

Q9: TikTok “Series” ต่างจากวิดีโอ TikTok ทั่วไปอย่างไร?

A9: “Series” อนุญาตให้โพสต์วิดีโอความยาวสูงสุด 20 นาที และจัดเรียงเป็นลำดับต่อเนื่อง เพื่อเล่าเรื่องราวที่ต้องการความลึกซึ้งได้ดีกว่าวิดีโอสั้นทั่วไป

Q10: นักการตลาดควรปรับกลยุทธ์อย่างไรเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์โซเชียลมีเดียใหม่ ๆ?

A10: ควรติดตามการอัพเดทอย่างใกล้ชิด ทดสอบฟีเจอร์ใหม่กับแคมเปญเล็ก ๆ ก่อนนำไปใช้งานจริง และปรับแผนการประชาสัมพันธ์ให้ยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เรียบเรียงโดย

sarawut burapapat

สราวุธ บูรพาพัธ

สราวุ​ธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต

จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *