fbpx

เจาะลึกกลยุทธ์ Warrix กับการใช้ Slack ยกระดับการทำงานในองค์กร

ในโลกที่การทำงานร่วมกันและการสื่อสารภายในองค์กรมีความสำคัญมากขึ้น Warrix แบรนด์ผู้นำด้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของไทย กำลังนำหน้าคู่แข่งด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานภายในองค์กร และการสื่อสารระหว่างทีม ผ่านแพลตฟอร์ม Slack ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดเวลาในการประชุมและประสานงานได้มากถึง 30% บทความนี้จะเจาะลึกถึงผลกระทบและประโยชน์ของ Slack ต่อการทำงานของ Warrix และความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในธุรกิจอื่น ๆ พร้อมแนะนำแนวคิดด้านการทำงานยุคใหม่ที่นำ AI มาเสริมทัพ!

ทำความรู้จักกับ Warrix และความท้าทายที่องค์กรเผชิญ

Warrix ก่อตั้งในปี 2556 โดยคุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล และเติบโตขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย รวมถึงขยายธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์คนรักกีฬา ท่ามกลางความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Warrix ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการจัดการข้อมูลและการประสานงานระหว่างแผนกที่มากขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

slack

Slack คืออะไร

Slack คือแพลตฟอร์มการสื่อสารในองค์กรที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านแชท เอกสาร และเครื่องมือต่าง ๆ ในระบบคลาวด์ โดย Slack ได้รับความนิยมในหมู่บริษัทที่ต้องการปรับปรุงการทำงานร่วมกันภายในทีมและระหว่างแผนกในองค์กร

จุดเด่นของ Slack

  1. การสื่อสารที่เป็นระเบียบ: Slack มีฟีเจอร์ Channels ซึ่งช่วยแบ่งการสนทนาตามหัวข้อ ทีมงาน หรือโปรเจกต์ ทำให้การติดตามข้อมูลง่ายขึ้นและไม่กระจัดกระจาย
  2. การผสานรวมกับแอปอื่น ๆ: Slack สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันยอดนิยมมากมาย เช่น Google Drive, Trello, Zoom, และ Salesforce ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
  3. การใช้งานที่สะดวกและเรียลไทม์: การแจ้งเตือนและการสนทนาแบบเรียลไทม์ช่วยให้ทีมงานสามารถสื่อสารและตัดสินใจได้รวดเร็ว
  4. การค้นหาข้อมูลที่รวดเร็ว: มีฟีเจอร์การค้นหาข้อความ ไฟล์ และบทสนทนาทั้งหมด ทำให้การดึงข้อมูลสำคัญในอดีตง่ายขึ้น
  5. ฟีเจอร์แฮนด์ฟรีและคำสั่งลัด: Slack มีฟีเจอร์ Slash Commands ซึ่งช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น เช่น การสร้างงานใน Trello หรือการตั้งค่าการแจ้งเตือน
  6. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล: รองรับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายขั้นตอน (Multi-Factor Authentication)
slack

การเลือกใช้ Slack เพื่อยกระดับการทำงานในองค์กร

Warrix เลือกใช้ Slack เพื่อเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันภายในองค์กร โดย Slack ไม่เพียงเป็นเครื่องมือการสื่อสาร แต่ยังรวมฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการกระบวนการทำงานและช่วยให้พนักงานสามารถติดตามงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้การทำงานระหว่างทีมมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กล่าวว่า “Slack ช่วยให้เราเชื่อมต่อข้อมูลและการทำงานได้ราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก พนักงานก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ฟีเจอร์เด่นของ Slack ที่ Warrix ใช้ปรับปรุงการทำงาน

  • การสร้างแชนแนลสำหรับโปรเจกต์: แบ่งการสนทนาตามโปรเจกต์เพื่อให้ข้อมูลไม่กระจัดกระจาย
  • การผสานรวมกับแอปอื่น ๆ: ช่วยให้ Warrix สามารถเชื่อมโยง Slack กับระบบ ERP และ Data Hub ขององค์กร ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ
  • การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล: ช่วยให้ทีมสามารถสรุปข้อมูลและแนวโน้มได้อย่างรวดเร็ว
  • ลดเวลาประชุม: จากการใช้ Slack ทำให้พนักงานสามารถสื่อสารและติดตามงานได้โดยไม่จำเป็นต้องจัดประชุมยาว ๆ ลดเวลาที่ใช้ไปกับการประสานงานลงถึง 30%

ความร่วมมือระหว่าง Salesforce และ iiG เพื่อความสำเร็จของ Warrix

slack

การปรับใช้ Slack ของ Warrix เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ Salesforce ประเทศไทย และ iiG (ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป) ซึ่งช่วยวิเคราะห์ความต้องการขององค์กรและวางแผนการใช้ Slack ให้เหมาะสม รวมถึงการจัดอบรมพนักงานเพื่อให้เข้าใจและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

คุณธิติรัตน์ ทองถาวร ผู้จัดการประจำ Salesforce ประเทศไทย กล่าวว่า “การสื่อสารที่รวดเร็วและการทำงานร่วมกันเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในยุคนี้”

ความเป็นไปได้ในอนาคต: ใช้ AI เสริมการทำงาน

ในแผนการต่อไป Warrix เตรียมนำ AI Chatbot มาใช้ในฝ่ายบริการลูกค้า เพื่อช่วยให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีแผนพัฒนา AI เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มจากข้อมูลที่ได้จาก Slack เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดและการทำงานในองค์กรแบบเรียลไทม์

slack

สรุปผลลัพธ์และข้อคิดสำหรับนักธุรกิจ

การนำเทคโนโลยีอย่าง Slack มาใช้ในองค์กรไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและมีการสื่อสารที่ดี ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล นักธุรกิจและนักการตลาดที่กำลังมองหาวิธีปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร ควรพิจารณาการใช้แพลตฟอร์มแบบ Slack เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีม

บทความและแหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Warrix

WARRIX แบรนด์ Sport – Health – Active & Lifestyle แบบครบวงจรสัญชาติไทย จำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้าสำหรับการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และสวมใส่ทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เข้าไปสู่พื้นที่การใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่ม ทั้งนักกีฬา แฟนกีฬา ผู้รักสุขภาพ คนรุ่นใหม่ และวัยทํางาน อีกทั้ง ให้บริการด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น คลินิกกายภาพบำบัด (Physiotherapy & Performance Studio) ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา (Warrix Run Hub) สถาบันสอนออกกำลังกายและให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ (Fit Junction) และได้เดินหน้าทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องในรูปแบบต่างๆ ที่กว้างขึ้น โดยเน้นในเรื่องของ Active & Lifestyle เช่น การจัดงานวิ่ง การสนับสนุนอีเวนท์กีฬา เทศกาลดนตรี ขณะเดียวกันยังเพิ่มสินค้าให้หลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.warrix.co.th

เกี่ยวกับ Salesforce

เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) คือแพลตฟอร์ม CRM ระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความสามารถของ AI ซึ่งมนุษย์และเอเจนต์ (Agent) หรือเจ้าหน้าที่อัจฉริยะร่วมกันทำงานเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า ด้วย Agentforce ซึ่งเป็นชุดการทำงานของ Agent และเครื่องมือที่สามารถปรับแต่งได้ Salesforce นำเสนอเทคโนโลยี Agent ที่ทำงานด้วยตัวเองได้โดยอัตโนมัติ และข้อมูลที่เชื่อมโยงรวมกัน พร้อมกับการวิเคราะห์เชิงลึก และแอปพลิเคชัน Customer 360 ที่บูรณาการบริการต่าง ๆ รวมไว้บนแพลตฟอร์มหนึ่งเดียว ช่วยให้บริษัทสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม

เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.salesforce.com

เกี่ยวกับ Slack

สแล็ค (Slack) คือแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยปลดล็อกองค์กรให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการใช้ AI ผสานกับข้อมูล และระบบ CRM

เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.salesforce.com/slack

เกี่ยวกับ iiG 

บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ iiG ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย ให้บริการโซลูชันทางเทคโนโลยีแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ระบบหลังบ้าน (Back Office) ระบบหน้าบ้าน (Front Office) ไปจนถึงจุดที่ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Touch Point) ซึ่งประกอบด้วย เทคโนโลยีด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) การบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) การตลาดดิจิทัล การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) การจัดการการใช้จ่ายทางธุรกิจ (BSM) การวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสาระสนเทศ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กรธุรกิจ 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ii.co.th

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *