การวิจัยการตลาดไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล แต่คือศิลปะในการตั้งคำถามที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้คำตอบที่สามารถนำไปใช้พัฒนาแคมเปญการสื่อสารและกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับ นักประชาสัมพันธ์ (PR Professionals) และ ผู้บริหารทางการตลาด (Marketing Executives) การตั้งคำถามที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่การตีความข้อมูลผิดพลาด ทำให้เสียทั้งเวลา งบประมาณ และโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค
ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึง 6 กุญแจสำคัญในการสร้างคำถามวิจัยการตลาด ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึก แต่ยังช่วยเสริมสร้างกลยุทธ์ PR ให้ตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง

1. เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายของการวิจัย (Define Clear Objectives)
ก่อนที่จะเริ่มต้นตั้งคำถาม คุณต้องรู้ก่อนว่า คุณต้องการคำตอบอะไร?
• เป้าหมายทางธุรกิจ (Business Goals): เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือการปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร
• เป้าหมายในการสื่อสาร (Communication Goals): เช่น การประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญ PR การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค หรือการวัดความพึงพอใจของลูกค้า
เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน คำถามที่คุณสร้างจะมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจจริง ๆ
ตัวอย่าง:
• แทนที่จะถามว่า “คุณรู้จักแบรนด์ของเราหรือไม่?”
• ลองปรับเป็น “อะไรคือสิ่งแรกที่คุณนึกถึงเมื่อได้ยินชื่อแบรนด์ของเรา?” เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการรับรู้แบรนด์ (Brand Perception)
2. ใช้คำถามปลายเปิดเพื่อดึงข้อมูลเชิงลึก (Ask Open-Ended Questions for Deeper Insights)
คำถามปลายปิด (Yes/No) อาจช่วยให้คุณเก็บข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ คำถามปลายเปิด จะช่วยให้คุณเข้าใจความคิด ความรู้สึก และแรงจูงใจของกลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง:
• คำถามปลายปิด: “คุณพอใจกับบริการของเราหรือไม่?” (ได้คำตอบแค่ใช่/ไม่ใช่)
• คำถามปลายเปิด: “อะไรที่คุณชอบหรือต้องการให้ปรับปรุงเกี่ยวกับบริการของเรา?” (ได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปปรับปรุงจริง)
การใช้คำถามแบบนี้จะช่วยให้นักประชาสัมพันธ์สามารถดึงข้อมูลที่นำไปสู่ Insight สำหรับพัฒนาแผนสื่อสารได้อย่างตรงจุด
3. หลีกเลี่ยงการตั้งคำถามนำ (Avoid Leading Questions)
คำถามนำ (Leading Questions) คือคำถามที่แฝงความเอนเอียงหรือชี้นำให้ผู้ตอบตอบในทิศทางที่เราต้องการ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่สะท้อนความเป็นจริง
ตัวอย่าง:
• คำถามนำ: “คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าคู่แข่งใช่ไหม?” (มีความเอนเอียง)
• คำถามที่เป็นกลาง: “คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง?” (เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ)
การหลีกเลี่ยงคำถามนำจะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่ แม่นยำ และ น่าเชื่อถือ สำหรับการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์
4. ทำให้คำถามชัดเจนและเข้าใจง่าย (Keep Questions Clear and Simple)
ความคลุมเครือในการตั้งคำถามอาจทำให้ผู้ตอบเกิดความสับสน ส่งผลให้ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงตามความต้องการ
เคล็ดลับในการทำให้คำถามชัดเจน:
• ใช้ ภาษาที่เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงคำศัพท์เทคนิคหรือศัพท์เฉพาะที่อาจทำให้เกิดความสับสน
• หลีกเลี่ยงการถาม หลายเรื่องในคำถามเดียว (Double-barreled Questions) เช่น “คุณพอใจกับคุณภาพและราคาของเราไหม?” เพราะผู้ตอบอาจพอใจในเรื่องหนึ่งแต่ไม่พอใจในอีกเรื่องหนึ่ง
ตัวอย่างที่ดี:
• แยกคำถามออกเป็น 2 ข้อ:
1. “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา?”
2. “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับราคาของผลิตภัณฑ์ของเรา?”
5. ใช้คำถามตามลำดับความสำคัญ (Sequence Questions Strategically)
การจัดลำดับคำถามอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยให้ผู้ตอบรู้สึกสบายใจในการตอบ และช่วยให้คุณเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน
• เริ่มต้นด้วยคำถามง่าย ๆ (Warm-up Questions): เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น “คุณรู้จักแบรนด์ของเรามานานแค่ไหน?”
• ค่อย ๆ เจาะลึก (In-depth Questions): หลังจากที่ผู้ตอบเริ่มรู้สึกสบายใจแล้ว เช่น “อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คุณเลือกใช้บริการของเราแทนคู่แข่ง?”
• จบด้วยคำถามสรุป (Closing Questions): เช่น “มีอะไรเพิ่มเติมที่คุณอยากแบ่งปันเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้บริการของเราไหม?”
6. ทดสอบคำถามก่อนใช้จริง (Pre-test Your Questions)
ก่อนที่จะนำแบบสอบถามไปใช้งานจริง ควรทำการ ทดสอบ (Pilot Test) กับกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อดูว่าคำถามนั้น:
• เข้าใจง่ายหรือไม่?
• มีข้อผิดพลาดหรือลำดับคำถามที่สร้างความสับสนหรือไม่?
• ได้ข้อมูลที่ตรงตามเป้าหมายหรือไม่?
ข้อดีของการทดสอบ:
• ช่วยลดความเสี่ยงในการได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
• ปรับปรุงคำถามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทสรุป: จากข้อมูลสู่กลยุทธ์ PR ที่ทรงพลัง
สำหรับ นักประชาสัมพันธ์มืออาชีพ และ ผู้บริหารทางการตลาด การตั้งคำถามวิจัยการตลาดที่ดีไม่ใช่แค่ทักษะ แต่คือ เครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การสื่อสารและการตัดสินใจทางธุรกิจ
6 กุญแจสำคัญ ที่กล่าวมาจะช่วยให้คุณ:
✅ เข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง
✅ สร้างแคมเปญ PR ที่ตอบโจทย์
✅ เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารแบรนด์
จำไว้ว่าข้อมูลที่ดีมาจากคำถามที่ถูกต้อง เพราะ “ข้อมูลที่ถูกต้อง = กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง”
FAQs: 6 เทคนิคการตั้งคำถามวิจัยการตลาด ที่ช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ PR ได้อย่างทรงพลัง
Q1: การตั้งคำถามวิจัยการตลาดสำคัญอย่างไรต่อกลยุทธ์ PR?
A1: การตั้งคำถามวิจัยการตลาดที่ถูกต้องช่วยให้นัก PR เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง ข้อมูลที่ได้จะช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารที่ตรงจุดและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ PR ได้อย่างแท้จริง
Q2: อะไรคือความแตกต่างระหว่างคำถามปลายเปิดและคำถามปลายปิดในการวิจัยการตลาด?
A2: คำถามปลายเปิดช่วยให้ผู้ตอบแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ให้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่า ส่วนคำถามปลายปิดจะให้คำตอบแบบจำกัด เช่น ใช่/ไม่ใช่ ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณที่ต้องการวัดผลอย่างรวดเร็ว
Q3: ทำไมต้องหลีกเลี่ยงการใช้คำถามนำ (Leading Questions)?
A3: คำถามนำอาจสร้างความเอนเอียงในการตอบ ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่สะท้อนความจริง การตั้งคำถามที่เป็นกลางจะช่วยให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและนำไปใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง
Q4: วิธีการกำหนดเป้าหมายการวิจัยการตลาดให้ชัดเจนต้องทำอย่างไร?
A4: เริ่มจากการระบุปัญหาหรือประเด็นที่ต้องการแก้ไข เช่น ต้องการทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับแบรนด์ หรือประเมินประสิทธิภาพแคมเปญ PR จากนั้นจึงสร้างคำถามที่ตรงกับวัตถุประสงค์เหล่านั้น
Q5: การจัดลำดับคำถามมีผลต่อคุณภาพของข้อมูลที่ได้อย่างไร?
A5: การจัดลำดับคำถามอย่างมีกลยุทธ์ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายสำหรับผู้ตอบ เริ่มจากคำถามง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อยเข้าสู่คำถามเชิงลึก จะช่วยให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและน่าเชื่อถือมากขึ้น
Q6: ควรทำอย่างไรหากต้องการทดสอบความแม่นยำของแบบสอบถามก่อนใช้งานจริง?
A6: ควรทำการทดสอบ (Pilot Test) กับกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก เพื่อประเมินความเข้าใจในคำถาม ระดับความชัดเจน และดูว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ จากนั้นปรับปรุงให้สมบูรณ์ก่อนนำไปใช้งานจริง
Q7: มีเทคนิคใดบ้างในการทำให้คำถามวิจัยการตลาดกระชับและเข้าใจง่าย?
A7: ใช้ภาษาที่เรียบง่าย หลีกเลี่ยงคำศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อน และหลีกเลี่ยงการถามหลายเรื่องในคำถามเดียว นอกจากนี้ควรใช้คำถามที่ตรงประเด็นเพื่อไม่ให้ผู้ตอบรู้สึกสับสน
Q8: การตั้งคำถามวิจัยการตลาดที่ดีช่วยในการสร้างกลยุทธ์ PR อย่างไร?
A8: คำถามที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและทัศนคติของกลุ่มเป้าหมาย นำไปสู่การสร้างแคมเปญ PR ที่ตรงจุด ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q9: จะรู้ได้อย่างไรว่าคำถามที่ตั้งขึ้นสามารถเก็บข้อมูลเชิงลึกได้เพียงพอ?
A9: ตรวจสอบว่าคำถามช่วยให้ผู้ตอบสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระหรือไม่ และคำตอบที่ได้สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อพัฒนากลยุทธ์ PR ได้จริงหรือไม่
Q10: การวิจัยการตลาดสำหรับนัก PR แตกต่างจากการวิจัยทั่วไปอย่างไร?
A10: การวิจัยการตลาดสำหรับนัก PR จะเน้นที่การทำความเข้าใจทัศนคติ ความรู้สึก และการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับแบรนด์ เพื่อสร้างกลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ แตกต่างจากการวิจัยทั่วไปที่อาจเน้นด้านข้อมูลทางสถิติหรือการวิเคราะห์เชิงตัวเลขมากกว่า
เรียบเรียงโดย

สราวุธ บูรพาพัธ
สราวุธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต
จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย