ชีวิตของ นักประชาสัมพันธ์ หรือ พีอาร์ ปัจจุบัน จะต้องแข่งขันกันสูง และเป็นอาชีพที่สามารถเติบโตได้อย่างไม่สิ้นสุด เพราะจะมีสิ่งใหม่ๆ ให้ได้เรียนรู้ในทุกวัน หลายครั้งที่คนพีอาร์มักจะต้องเร่งร่างข่าวจนล่วงเลยมื้อเที่ยง หรือไม่ก็ต้องเร่งรีบปั่นต้นฉบับข่าวเพื่อส่งให้แก่ลูกค้าในตอนเช้า สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นส่วนผลักดันให้พวกเราเติบโตและเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น เพราะนักพีอาร์จะต้องเป็นผู้ที่มีการเตรียมพร้อมและต้นทุนที่มากเพียงพอ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถทำให้งานต่างๆ เสร็จสิ้นลุล่วงเป็นอย่างดีได้
หลายพีอาร์เอเจนซี่ในเมืองนอกและเมืองไทย ต่างมีนักพีอาร์ในหลากหลายลักษณะและคุณสมบัติ แต่ที่แน่ๆ มีคุณสมบัติบางประการที่จะช่วยบ่งบอกว่า บุคคลนั้นๆ ไม่เหมาะที่จะเป็นนักพีอาร์ หรือ นักประชาสัมพันธ์ จำนวน 5 ประการ คือ
1. ไม่ชอบอ่านข่าว
การจะเป็นมืออาชีพที่ดีนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักพีอาร์จะต้องหมั่นอ่านหรือเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกค้าหรือขององค์กร ในการอ่านข้อมูลต่างๆ นั้นอาจหาได้จาก https://www.thaipr.net/ ศูนย์กลางข่าวประชาสัมพันธ์จากพีอาร์องค์กรและเอเจนซี่ จัดสรรเป็นหมวดหมู่เลือกตามหัวข้อที่ต้องการได้
2. ไม่สามารถทำงานได้หลายอย่างในคราวเดียวกัน
สัจธรรมสำหรับนักพีอาร์ในเอเจนซี่พีอาร์ จะต้องประสบนั่นคือ ในแต่ละวันจะต้องพบกับลูกค้าหลากหลายราย หลากหลายประชุม ประสานงานกับสื่อมวลชน เขียนข่าวให้แก่ลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ มักจะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือ deadline เพราะอาจจะตายได้จริงๆ หากงานไม่เสร็จสิ้น
3. เขียนไม่เก่ง
หน้าที่หลักของนักพีอาร์ที่ดีคือ การเขียนหรือสร้างประเด็นให้แก่งานเขียนของตนเองหรือลูกค้าให้เป็นที่สนใจอย่างสร้างสรรค์ กระชับ ชัดเจน เพราะหลายครั้ง นักพีอาร์จะต้องส่งข่าวหรืองานเขียนเหล่านั้นไปยังสื่อมวลชน กระตุ้นให้เขาสนใจงาน เพื่อนำไปสู่การตีพิมพ์ในที่สุด จึงเป็นหน้าที่สำคัญของนักพีอาร์มืออาชีพที่จะต้องมี
4. อยากทำงานแบบเข้าออกตามเวลา มา 08.30 เลิก 17.30
ไม่อยากอยู่เย็น เลิกดึก เป็นอันขาด ลูกค้ามักต้องการคำปรึกษาและการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยไม่มีกรอบของเวลาเป็นตัวกำหนด หรือบางครั้ง สื่อมวลชนก็ต้องการความช่วยเหลือในการปิดต้นฉบับ ร้องขอข้อมูล นอกเวลาทำการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการจัดงานแถลงข่าวในวันรุ่งขึ้น เป็นปกติของสถานีโทรทัศน์จะมีการสรุปหมายในช่วงสองทุ่มของแต่ละวัน หากพีอาร์ต้องการทราบว่า จะมีสื่อมวลชนมางานของเราหรือไม่ จำเป็นที่พีอาร์จะต้องติดตามข่าวในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ นักพีอาร์มืออาชีพ ส่วนใหญ่จะลิงก์อีเมล์เข้ายังมือถือส่วนบุคคล สิ่งที่มักเกิดขึ้นประจำคือ การส่งข่าวหรือข้อมูลให้แก่สื่อมวลชนได้อย่างอิสระและตลอดเวลาตามที่สื่อมวลชนต้องการหรือลูกค้าอยากได้
5. ไม่สามารถยอมรับการปฏิเสธได้
เป็นเรื่องธรรมดา แม้นว่านักพีอาร์จะทำงานอย่างเต็มความสามารถแล้วก็ตาม อาจถูกปฏิเสธจากบรรณาธิการข่าว นิตยสาร หรือสื่อมวลชนได้ สำหรับข่าวหรือข้อมูลต่างๆ ที่จัดส่งให้ นักพีอาร์จะต้องเตรียมใจยอมรับการปฏิเสธเหล่านั้น รวมทั้ง หลายครั้งงานเขียนจะสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงมีการแก้ไขทั้งจากลูกค้าและสื่อมวลชน นักพีอาร์ก็จะต้องเข้าใจ และรีบดำเนินการแก้ไข มากกว่าที่จะไปนั่งหลบมุม ร้องไห้ จิตตก กับงานที่คิดว่าตนเองทำได้เป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น ไม่เป็นประโยชน์ที่จะมาเสียใจ แต่สำคัญกว่าคือ การแก้ไข และเดินต่อไปข้างหน้าแทน
แล้วคุณล่ะ คิดว่าอาชีพนักประชาสัมพันธ์เหมาะกับคุณหรือไม่