หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการเปิดตัว Galaxy Z Flip4 วันนี้ จะมาสรุปสั้น ๆ ให้ฟังว่ามีอะไรใหม่บ้าง นับได้ 8 ข้อที่สาวกต้องรู้ หรือประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ
จากความทุ่มเทของซัมซุงเพื่อสร้างงานฝีมือที่ดีเลิศ ส่วนประกอบทุกชิ้นของทั้งสองรุ่นจึงได้รับการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพื่อมอบประสบการณ์ที่ลงตัวที่สุดให้กับผู้ใช้ และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคทุกคนจะมีดีไซน์ที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง โดย Galaxy Z Flip4 ต่อยอดความสำเร็จของรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นภาพจำของซัมซุง เพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์หลักๆ ทั้งประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการใช้กล้องถ่ายภาพ แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น[1] และความสามารถในการปรับเปลี่ยนตามความต้องการได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับคงไว้ซึ่งดีไซน์เล็กกระทัดรัดเป็นพิเศษ
- ซัมซุงเป็นแบรนด์แรกที่สร้างสรรค์ สมาร์ทโฟนจอพับที่กันน้ำได้ ในระดับ IPX8 ผู้ใช้จึงคลายความกังวลใจได้หากต้องติดอยู่กลางสายฝน
Samsung Galaxy Z Flip4
- ใหม่! ปีนี้ Cover screen ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ทำให้เห็นภาพแบบที่ถ่ายได้ชัด กล้องหลัง เป็น Super Clear Glass (Gorilla Gross DX) กล้อง wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขยายมุมมองให้กว้างขึ้นจาก 79 องศา เป็น 83 องศา
Quick shot
- ใหม่!ใช้ถ่าย Portrait จากฝา Cover screen ได้เลย
- ใหม่! กล้องสามารถเปลี่ยนจาก Fit to Screen เป็น Actual Ratio สายทำ Vlog ต้องชอบสิ่งนี้ คือสามารถปรับจากหน้าจอที่เป็น fit to screen ไปที่ actual ratio ได้เลย จะทำให้ Vlogger หรือสายทำคอนเท็นต์ ตอนขณะถ่ายรูปหรือวิดีโอนั้นเห็นว่าตนเองอยู่ตรงไหนของเฟรม ช่วยยกระดับของการทำ Vlog ให้ดียิ่งขึ้น
- ใหม่! กล้องที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นในโหมด Nightography ยังมากับเซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้น ทำให้กล้องหน้าสว่างขึ้น 65% ภาพเคลียร์มากยิ่งขึ้น การถ่ายวิดีโอ มีความคมชัด ไม่เบลอ กันสั่นมากยิ่งขึ้น
Cover screen
- สามารถ Quick setting ในส่วนของ Control sounds, Brightness, +Wifi, Bluetooth, Airplane Mode, Flashlight
- สามารถเช็ค Notifications ไม่ว่าจะเช็คปฏิทิน การแจ้งเตือน ข้อความ
- ใหม่! นอกจากดู Notifications ได้ที่จอฝาพับได้แล้วยังสามารถตอบโต้ข้อความได้เลย การพิมพ์, อิโมจิ และอื่นๆ
Longer Battery & Fast Charging:
- ใหม่! สนุกและทำคอนเท็นต์ได้นานขึ้น แบตเตอรี่อัพเกรดจาก 3,300 มิลลิแอมป์ เป็น 3,700 มิลลิแอมป์ และรองรับ Super Fast Charging ที่ชาร์จ จนถึงระดับ 50% ของความจุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที จึงช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับโลกรอบตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
Galaxy Z Flip4 เริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วตั้งแต่ 10 สิงหาคม – 1 กันยายน 65 และจะวางจำหน่ายตั้งแต่ 2 กันยายน 65 เป็นต้นไป
- Galaxy Z Flip4 ราคา 35,900 บาท (128 GB) และราคา 38,900 (256 GB)
- Galaxy Z Flip4 Bespoke Edition ราคา 39,900 (256 GB)
สิทธิพิเศษ 5 ต่อ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าระหว่าง 10 สิงหาคม 65 – 1 กันยายน 65 ที่ samsung.com, Samsung Experience Store และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
ต่อที่ 1: Galaxy Z Flip4 เลือกรับ กระเป๋า BOYY BOBBY CHARM มูลค่า 8,900 บาท หรือ อัพเกรดความจุเป็น 2 เท่าฟรี! มูลค่าสูงสุด 6,000 บาท
ต่อที่ 2: ฟรี ประกันจอ Samsung Care+ 1 ปี เปลี่ยนจอฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตามมูลค่าคุ้มครอง
ต่อที่ 3: ส่วนลดเพิ่มเติมจากค่าเครื่องที่นำมาแลกอีก 3,000 บาท เมื่อนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาแลกซื้อ
ต่อที่ 4: ลูกค้านำโค้ดที่ได้จากการลงทะเบียนความสนใจ First to Unfold มาจองจะได้รับฟรี
เคส Silicone Cover with Ring มูลค่า 1,190 บาท เมื่อพรีออเดอร์ Galaxy Z Flip4
ต่อที่ 5: ส่วนลด 30% สำหรับซื้อ Galaxy Watch5 Series เมื่อซื้อในคำสั่งซื้อเดียวกัน
*สินค้าแถมมีจำนวนจำกัด และไม่สามารถเลือกสีได้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ samsung.com
สั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่
Galaxy Z Flip4 https://smsng.store/_pr_global_unpacked
ข้อมูลเพิ่มเติม
Galaxy Z Flip4 Fashion Smartphone สุดชิคพกพาสะดวก ที่สุดของไอเท็มเพื่อการบ่งบอกตัวตน มาพร้อม Flex Camera
Galaxy Z Flip4 เป็นที่สุดของไอเท็มเพื่อการบ่งบอกตัวตน ดีไซน์ฝาพับแบบ Clamshell เล็กกระทัดรัด ให้ประสบการณ์ที่พิเศษเฉพาะตัวในแบบที่หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนอื่นๆ ให้ผู้ใช้บันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่มได้ในหลากหลายมุมมองโดยไม่ต้องถือเครื่อง เพียงพับตัวเครื่องให้เป็นมุมเพื่อเปิดการใช้งาน FlexCam[2] ซึ่งฟีเจอร์นี้ยังใช้ร่วมกับแอปโปรดของผู้ใช้ได้อีกด้วย[3] โดยซัมซุงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Meta ทำให้ FlexCam ได้รับการปรับตั้งให้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมกับแพลตฟอร์มโซเชียลยอดฮิต อาทิ Instagram, Facebook และ WhatsApp นอกจากนี้ Galaxy Z Flip4 ยังให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมากมายกว่าที่เคย เช่น ถ่ายภาพเซลฟี่คุณภาพสูงจากหน้าจอด้านนอกโดยใช้กล้องหลักในโหมด Quick Shot ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นอีกขั้น หรือเริ่มการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงในโหมด Quick Shot แล้วเปลี่ยนเข้าสู่โหมด Flex เพื่อบันทึกต่อเนื่องอย่างไร้การสะดุดในแบบไม่ต้องถือเครื่อง โดยที่ไม่จำเป็นต้องหยุดบันทึกวิดีโอเพื่อเปลี่ยนโหมด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ รวมทั้งยังใช้โหมด Quick Shot ถ่ายภาพเซลฟี่แนวตั้งและดูภาพพรีวิวในสัดส่วนจริงของภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้กล้องที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นยังมากับเซ็นเซอร์ที่สว่างขึ้น 65%[4] ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Snapdragon® 8+ Gen 1 Mobile Platform จึงให้ภาพถ่ายและวิดีโอที่คมชัดสดใสและ ไร้การสั่นไหวยิ่งกว่าเดิมทั้งกลางวันและกลางคืน
Galaxy Z Flip4 ได้รับการสร้างสรรค์ให้ใช้งานแบบไม่ต้องถือเครื่องได้อย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกางโทรศัพท์ออก ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ ตอบข้อความ ปลดล็อครถยนต์[5] หรือแม้แต่ควบคุมวิดเจ็ต SmartThings Scene[6] ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้สามารถทำได้จากหน้าจอด้านนอก
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Galaxy Z Flip4 ถ่ายภาพ รับชมคอนเทนต์ต่างๆ และเชื่อมต่อได้ยาวนานยิ่งขึ้นระหว่างการชาร์จแต่ละครั้งด้วยแบตเตอรี่ 3,700mAh[7] ยิ่งไปกว่านั้น Galaxy Z Flip4 ยังรองรับ Super Fast Charging ที่ชาร์จจนถึงระดับ 50% ของความจุได้ในเวลาประมาณ 30 นาที[8] จึงช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับโลกรอบตัวได้อย่างต่อเนื่องเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
บานพับตัวเครื่องที่เพรียวบางยิ่งขึ้น เส้นขอบที่เหยียดตรง กระจกฝาหลังสีตัดกัน และกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะมันวาว ผสานกันเป็นดีไซน์อันแสนประณีตของซัมซุง ผู้ใช้ยังสามารถปรับเปลี่ยน Galaxy Z Flip4 ได้ตามความชื่นชอบทั้งด้านในและด้านนอก โดยใช้ Galaxy Theme หลากหลายแบบกับหน้าจอทั้งด้านนอกและหน้าจอหลักเพื่อเสริมส่งสไตล์ของตนเองด้วยอักษร ไอคอน และดีไซน์ต่างๆ ได้ตามความต้องการ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างสรรค์หน้าจอด้านนอกให้มีความเฉพาะตัวด้วยดีไซน์นาฬิกาและพื้นหลังใหม่ๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพนิ่ง ภาพในรูปแบบ GIF หรือแม้กระทั่งวิดีโอ[9]
ข้อมูลอ้างอิง
[1] เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G
[2] FlexCam หมายถึงประสบการณ์การใช้กล้องถ่ายภาพในโหมด Flex ซึ่งรองรับการการทำงานเมื่อปรับมุมของเครื่องโทรศัพท์ให้อยู่ในช่วง 75° ถึง 115°
[3] การรองรับการใช้งานอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละแอปพลิเคชั่น
[4] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G
[5] ฟีเจอร์นี้อยู่ใน Samsung Wallet ซึ่งการให้บริการและการเปิดตัวฟีเจอร์บางอย่างของ Samsung Wallet อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศและอุปกรณ์แต่ละรุ่นของผู้ใช้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้บริการ Digital Automobile Key ยังคงเปิดให้บริการเฉพาะในบางประเทศและสำหรับอุปกรณ์บางรุ่นเท่านั้น
[6] เมื่อเปิดใช้ SmartThings Scene ในแอปพลิเคชั่น SmartThings ไว้แล้วเท่านั้น
[7] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Z Flip3 5G โดยเป็นค่าปกติที่ทดสอบภายใต้สภาวะห้องทดลองของผู้ทดสอบภายนอก ค่าปกติคือค่าเฉลี่ยที่คำนวณได้ โดยพิจารณาถึงค่าความเบี่ยงเบนในเรื่องความจุของแบตเตอรี่ในกลุ่มตัวอย่างแบตเตอรี่ที่ทดสอบโดยใช้มาตรฐาน IEC 61960 ความจุ(ต่ำสุด)ที่วัดค่าได้ คือ 3,595mAh อายุการใช้งานที่แท้จริงของแบตเตอรี่อาจแตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมของเครือข่าย รูปแบบการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ
[8] Super Fast Charging เป็นคุณสมบัติที่ใช้ได้เมื่อใช้กับหัวชาร์จ 25W ขึ้นไปเท่านั้น ค่าที่ระบุเป็นผลจากการทดสอบในห้องทดลองภายในของซัมซุงด้วยหัวชาร์จ Travel Adapter กำลังไฟ 25W ในขณะที่แบตเตอรี่มีประจุไฟเหลืออยู่ 0% โดยที่บริการและฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงหน้าจอของเครื่องโทรศัพท์ถูกปิดการใช้งานเอาไว้ทั้งหมด ความเร็วที่แท้จริงในการชาร์จอาจแตกต่างกันออกไปตามลักษณะการใช้งานที่แท้จริง รวมถึงสภาวะการชาร์จ และปัจจัยอื่นๆ หัวชาร์จ Travel Adapter แยกจำหน่ายต่างหาก แนะนำให้ใช้หัวชาร์จและสายชาร์จที่ได้รับการรับรองจากซัมซุงแล้วเท่านั้น
[9] รองรับวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ 176×144 (qCIF) ถึง 1920×1080 (FHD) ความยาวสูงสุดไม่เกิน 15 วินาที และขนาดไฟล์ใหญ่สุดไม่เกิน 100MB
[10] โหมด Flex รองรับการการทำงานเมื่อปรับมุมของเครื่องโทรศัพท์ให้อยู่ในช่วง 75° ถึง 115°