สสว. จัดงาน SME Day 2023 “รวมพลังโต” แถลงผลการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อน SME ไทย “รวมพลังโต” กับ SME ACCESS พร้อมจับมือ 46 พันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนประกาศเจตนารมณ์เพื่อบูรณาการการส่งเสริม SME ในการพัฒนาข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์ www.smeone.info
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดในวัน Micro,Small and Medium-sized Enterprises Day หรือ SME DAY หรือ 27 มิถุนายนของทุกปี โดยสหประชาชาติ พบว่าประเทศไทยมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ MSME มากกว่า 3,187 ล้านราย มีอัตราการจ้างานเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ถึง 12.83 ล้านคน และ มีแนวโน้มว่าในปี 2566 จะมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น 12.98 ล้านคน ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยในธุรกิจ MSME คือฟันเฟืองที่สำคัญต่อการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภายในประเทศให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้
MSME คิดเป็นกว่า 90% ของธุรกิจทั้งหมดทั่วโลก และสร้างงานมากกว่า 60 – 70% ของตำแหน่งงานทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจโลกถึง 50% รวมถึงมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับชาติ
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ความสำคัญของผู้ประกอบการ MSME ในบริบทของโลก ประกอบด้วย 3 มิติใหญ่ คือ
1. ช่วยสร้างงาน กระจายรายได้ และเอื้อให้เกิดธุรกิจใหม่ โดยผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่มีลักษณะธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้นและมีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสการจ้างงานสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉลี่ยในทุกระบบเศรษฐกิจ SME จะมีการจ้างงานมากกว่า 70% รวมถึงเป็นการสร้างค่าครองชีพที่ดีขึ้นให้กับประชาชน และเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
2. SME มีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในทุกประเทศ โดย SME มีส่วนร่วมกับการสร้างรายได้หรือมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือ GDP อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วจะมีสัดส่วนถึงกว่า 50% ของ GDP รวมทั้งประเทศ
3. SME มีความสำคัญต่อการกระจายตัวการพัฒนาไปสู่ภูมิภาคอย่างสมดุล การจัดตั้งธุรกิจในเมืองเล็กๆ และพื้นที่ชนบทมีส่วนช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำในภูมิภาคและส่งเสริมการเติบโตอย่างทั่วถึง การกระจายกิจกรรมทางเศรษฐกิจนี้ช่วยกระจายความมั่งคั่งและโอกาสอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบการ MSME อย่างมาก เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ งาน SME DAY 2023 ในวันนี้ จึงถือได้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการแสดงพลังให้กับผู้ประกอบการได้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวมถึงสถาบันการศึกษาเพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนพี่น้อง SME ของประเทศไทย กว่า 46 แห่ง โดยเมื่อ 4 ปีก่อน สสว. ได้เริ่มต้นจากการบูรณาการระหว่างหน่วยงานจำนวน 40 แห่ง ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารด้านการส่งเสริมและการพัฒนาผู้ประกอบการ MSME ภายใต้ SME Portal หรือ www.smeone.info ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางที่ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าค้นหาเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจของตนไว้ในที่เดียว
“ที่ผ่านมามีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 6 แสนครั้งต่อปี และมีจำนวนหน่วยงานที่แลกเปลี่ยนเนื้อหาข่าวสารกันมากกว่า 70 หน่วยงาน ซึ่งถือได้ว่า ประสบความสำเร็จในเชิงความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการพัฒนา MSME อย่างเห็นได้ชัด ทุกหน่วยงานที่มาในวันนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งเสริมผู้ประกอบการ MSME ของประเทศ” นายวีระพงศ์ กล่าว
หากผู้ประกอบการได้เข้ามาเป็นสมาชิกของ สสว.แล้ว หากสนใจในเรื่องใด ทาง สสว.ก็จะเชื่อมต่อให้ตามความต้องการของผู้ประกอบการ เช่น สนใจเรื่องการขออย. ตอนนี้เราก็กำลังมีโครงการนำร่อง ผู้ที่ลงทะเบียนเรียบร้อย เมื่อไปติดต่อเรื่องการขอ อย.ที่กระทรวงสาธารณสุข ก็จะมีช่องบริการรวดเร็วพิเศษ หรือ Fast track และก็จะขยายไปยังภูมิภาค จริงๆ หน่วยงานเหล่านี้ก็เต็มใจให้บริการผู้ประกอบการ SME อยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าเข้ามารวมตัวกันที่ สสว.ก็จะได้รับการบริการที่เรียกว่า “ทุกอย่างครบ จบที่เดียว”
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
วันนี้เป็นการ่วมมือหลายหน่วยงานมาก ซึ่งคิดว่าน่าจะครอบคลุมเกือบครบแล้ว สสว.เข้ามาดูแลตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก Micro ขนาดกลาง เช่น เราเคยมีกรณีที่เขาเป็นแม่ค้าตลาดนัด แล้วมาเข้าอบรมกับ สสว. เริ่มจากเขาขายเห็ดทอดในตลาดนัด แล้วมาอบรมพัฒนาสินค้าจนกลายเป็นเห็ดทอดไม่อมน้ำมัน ตอนนี้ทำแพคส่งขายตะวันออกกลางแล้ว ซึ่งเขาต้องมีทั้งมาตรฐานฮาลาล เรื่องของโรงงานผลิต เขาใช้เวลาแค่ 3-4 ปีเท่านั้นก็เปลี่ยนจากธุรกิจขนาดเล็กขายเห็ดทอดที่ตลาดนัด พัฒนาจนเป็นธุรกิจขนาดกลางที่ส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมแรงของภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมงานในวันนี้ หากผู้ประกอบการ SME เดินทางเพียงลำพัง เขานึกไม่ออกแน่ๆว่า จะไปติดต่อกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอย่างไร จะไปกระทรวงพาณิชย์อย่างไร บริการเหล่านี้ฟรีสำหรับผู้ประกอบการ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ และเทคโนโลยีก็ง่ายขึ้น สามารถดาวน์โหลดเว็บไซต์ของ สสว.แล้วรับคำปรึกษาออนไลน์ มีหลากหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น โครงการของ BDS ที่ชื่อว่า “SME ปัง ตังได้คืน” ปล่อยแคมเปญ “จ่ายหนึ่งหมื่น คืนเก้าพัน” สนับสนุนผู้ประกอบ 5,000 รายในงบประมาณ 50 ล้าน หมดเขต 30 กันยายนนี้ หรือการพัฒนาระบบ SME ACCESS ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อ SME เต็มรูปแบบ เน้นปรับรูปแบบการให้บริการ MSME ในด้านต่าง ๆ สู่รูปแบบ e-Service เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูล
นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ การเสวนาหัวข้อ ติดต่อรัฐไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดจากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ 5 หน่วยงาน / Showcase โตหลายเท่าแค่เข้าถึง SME ACCESS : ความสุขคำโตกับแนวคิด BCG Mode เพื่อคนไทยกินอะไรก็สุขทุกคำ ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลแพลตฟอร์มออนไลน์ของ สสว. ได้แก่ SME COACH , SME ONE, THAI SME-GP รวมถึงแอปพลิเคชัน SME CONNEXT เป็นตัวช่วยในการขยายธุรกิจ พร้อมทลายขีดจำกัดในการประกอบธุรกิจ ทำให้เติบโตอย่างมีทิศทางและมั่นใจ เหมือนมี สสว. อยู่เคียงข้าง, กิจกรรม Talk show “อัปเดตเทรนด์การตลาดที่ SME ไม่ควรพลาด” โดย คุณปฤณ จำเริญพานิช (Digital Prince) ที่ปรึกษาและวิทยากรด้าน Digital Marketing รวมถึงประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ ทิศทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ SME ครึ่งปีหลัง 2566 / เมื่อโลกเปลี่ยน SME ไทยจะปรับตัวอย่างไร และ มาตรการลดต้นทุนธุรกิจให้ SME ผ่านระบบ BDS และสิทธิประโยชน์ เพื่อพี่น้อง SME นั่นเอง