มะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตสูงสุดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ข้อมูลจาก Global Cancer Observatoryระบุว่า ในปี 2022 มีคนไทยกว่า 118,000 คน เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนถึงความร้ายแรงที่ยังคงท้าทายระบบสาธารณสุขและการรับรู้ของประชาชน แม้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่การป้องกันและการตรวจพบโรคในระยะแรกยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยง
ในปี 2025-2027 Union for International Cancer Control (UICC) ได้กำหนดธีมของวันมะเร็งโลกว่า “United by Unique” ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม และสร้างความตระหนักรู้ถึงความแตกต่างเฉพาะบุคคลที่สามารถนำไปสู่แนวทางการรักษาและป้องกันที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รู้จักความเสี่ยงของโรคมะเร็ง: ข้อมูลที่ควรรู้
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 9.7 ล้านคนทั่วโลก โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่:
1. ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้:
• การสูบบุหรี่: เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปอดและมะเร็งอีกหลายประเภท
• การดื่มแอลกอฮอล์: เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับและมะเร็งเต้านม
• การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ: การบริโภคอาหารแปรรูป ไขมันสูง น้ำตาลมากเกินไป
• การขาดการออกกำลังกาย: ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและน้ำหนักตัว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง
• มลพิษทางอากาศ: มีสารก่อมะเร็งที่มองไม่เห็น แต่ส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว
2. ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้:
• อายุ: ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามวัย
• พันธุกรรม: หากมีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็ง
• ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง: เช่น ผู้ป่วย HIV/AIDS หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
• สารก่อมะเร็งในสิ่งแวดล้อม: เช่น สารเคมีในอุตสาหกรรมบางประเภท
การตรวจคัดกรอง: อาวุธสำคัญในการป้องกันมะเร็ง
การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะมะเร็งบางประเภทที่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เช่น:
• มะเร็งเต้านม: การตรวจแมมโมแกรมช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 30%
• มะเร็งปากมดลูก: การตรวจ Pap smear และ HPV DNA Test ช่วยตรวจพบความผิดปกติก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง
• มะเร็งลำไส้ใหญ่: การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ช่วยตรวจพบติ่งเนื้อก่อนพัฒนาเป็นมะเร็ง
ข้อมูลทางสถิติชี้ว่า หากตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น โอกาสรอดชีวิตในระยะ 5 ปี สูงถึง 99% แต่ถ้าพบในระยะลุกลาม อัตรารอดชีวิตจะลดลงเหลือเพียง 27% เท่านั้น
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
มะเร็งมักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น แต่มี “สัญญาณเตือนภัย” ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่:
• ก้อนเนื้อหรืออาการบวมผิดปกติ
• ไอเรื้อรังหรือหายใจติดขัดโดยไม่ทราบสาเหตุ
• เลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดในปัสสาวะหรืออุจจาระ
• น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
• ความเจ็บปวดเรื้อรังในจุดเดิมๆ
• ไฝที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือสี
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
แนวทางการป้องกัน: สร้างเกราะป้องกันสุขภาพ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้อย่างมาก โดย Dr. Jeff Vacirca แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา ได้แนะนำวิธีป้องกันที่สำคัญ ได้แก่:
1. การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี:
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ผักผลไม้หลากสี และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
• ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
2. การฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง:
• วัคซีน HPV: ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
• วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี: ป้องกันมะเร็งตับ
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อมะเร็ง:
• ใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสียูวี
• หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและสารเคมีอันตราย
บทสรุป: ความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ปราศจากมะเร็ง
ในโอกาส วันมะเร็งโลก 2025 นี้ เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมของตนเอง การสนับสนุนให้คนรอบข้างตรวจสุขภาพประจำปี หรือการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง
มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ขอเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทุกคนร่วมมือกันในการสร้างความตระหนักรู้ ส่งเสริมการตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ และสนับสนุนการวิจัยเพื่อหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะ “มะเร็งสามารถป้องกันและรักษาได้ หากเราตรวจพบเร็วและรับมืออย่างถูกต้อง”
เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ
มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2519 เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับโลก ด้วยนักศึกษา และคณาจารย์จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก SGU เป็นสถาบันระดับนานาชาติอย่างแท้จริงที่มีมุมมองระดับโลกอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัว คณะแพทยศาสตร์ SGU ได้รับการรับรองด้านการแพทย์จาก Grenada Medical and Dental Council (GMDC) เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจาก World Federation for Medical Education (WFME) ซึ่งเป็นองค์กรสากลที่รับรองมาตรฐานหลักสูตรแพทย์ทั่วโลก มหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต (พ.บ.) 4 ปี และเปิดหลักสูตรขั้นสูง 5, 6 และ 7 ปี โดยสามารถรับนักศึกษาจากระบบการศึกษาทั่วโลก SGU มีเครือข่ายโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ในเครือมากกว่า 75 แห่งในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร พร้อมเปิดโอกาสพิเศษสำหรับนักศึกษาในการเริ่มต้นอาชีพแพทย์ในเกรเนดา หรือสหราชอาณาจักร
FAQs: รู้ก่อน ป้องกันได้! เทคนิคสำคัญลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
Q1: มะเร็งคืออะไร?
A1: มะเร็งคือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ หากไม่รับการรักษาอย่างทันท่วงที
Q2: สาเหตุหลักของโรคมะเร็งคืออะไร?
A2: สาเหตุหลักมาจากปัจจัยเสี่ยง 2 กลุ่ม ได้แก่ ปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น การสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ อาหารไม่สุขภาพ และปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม อายุ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
Q3: มีมะเร็งประเภทใดบ้างที่พบบ่อยในประเทศไทย?
A3: มะเร็งที่พบบ่อย ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
Q4: อาการเบื้องต้นของมะเร็งที่ควรเฝ้าระวังคืออะไร?
A4: อาการที่ควรระวัง เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ไอเรื้อรัง เลือดออกผิดปกติ เจ็บปวดเรื้อรัง หรือการปรากฏของก้อนเนื้อที่ผิดปกติ
Q5: การตรวจคัดกรองมะเร็งมีประโยชน์อย่างไร?
A5: การตรวจคัดกรองช่วยตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดอัตราการเสียชีวิต
Q6: ควรตรวจคัดกรองมะเร็งบ่อยแค่ไหน?
A6: ความถี่ในการตรวจขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล เช่น สำหรับมะเร็งเต้านมแนะนำให้ตรวจแมมโมแกรมปีละครั้งหลังอายุ 40 ปี ส่วนมะเร็งปากมดลูกแนะนำทุก 3 ปี
Q7: สามารถป้องกันมะเร็งได้อย่างไร?
A7: ป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น HPV และไวรัสตับอักเสบบี
Q8: การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งได้จริงหรือไม่?
A8: ได้ผลจริงสำหรับบางชนิด เช่น วัคซีน HPV ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก และวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งตับ
Q9: การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้อย่างไร?
A9: การออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งล้วนลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
Q10: ควรทำอย่างไรหากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง?
A10: ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด หลีกเลี่ยงการวินิจฉัยด้วยตนเอง และอย่าละเลยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น