ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกของการทำงานได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดหรือการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ค่านิยมและทัศนคติของคนรุ่นใหม่ (Gen Z และ Millennials) ที่ไม่เพียงมองหา “งาน” เพื่อความมั่นคงทางการเงิน แต่ต้องการสร้าง “ชีวิต” ที่ตอบโจทย์ความฝัน ความยืดหยุ่น และความหมายของตนเอง
จากผลสำรวจของ Deloitte Global 2023 Gen Z และ Millennial Survey พบว่า 66% ของ Gen Z และ 71% ของ Millennials ในประเทศไทยแสดงความสนใจในการหารายได้เสริมและสร้างธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่า คนรุ่นใหม่กำลังมองหาหนทางใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนมากกว่าการพึ่งพางานประจำเพียงอย่างเดียว

บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัจจัยที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่เลือกเส้นทางนี้ พร้อมวิเคราะห์โอกาสและอุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
1. ความเปลี่ยนแปลงของค่านิยมในการทำงาน: จาก “งานประจำ” สู่ “ความเป็นเจ้าของ”
คนรุ่นใหม่ไม่กลัวที่จะเสี่ยง พวกเขามองว่า “ความมั่นคง” ไม่ได้หมายถึงการทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ จนเกษียณอีกต่อไป แต่คือการ ควบคุมชีวิตของตนเองได้ ตั้งแต่เวลาในการทำงาน รูปแบบการทำงาน ไปจนถึงวิธีการสร้างรายได้
Gig Economy และการทำงานอิสระ (Freelancing) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คนรุ่นใหม่หันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการหาลูกค้าและสร้างรายได้ เช่น การเป็น Content Creator, Digital Marketer หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจ E-commerce ขนาดเล็ก การที่พวกเขาสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วยต้นทุนต่ำ และเข้าถึงเครื่องมือออนไลน์ที่หลากหลาย ทำให้เส้นทางสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
2. ปัจจัยผลักดันสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจ
2.1 ความยืดหยุ่น (Flexibility)
คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance พวกเขาต้องการอิสระในการกำหนดเวลาและสถานที่ในการทำงาน การเป็นเจ้าของธุรกิจช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องยึดติดกับเวลาเข้างาน-เลิกงานแบบดั้งเดิม
2.2 การเข้าถึงเทคโนโลยี (Access to Technology)
ในยุคที่ เทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามามีบทบาทสำคัญ คนรุ่นใหม่สามารถสร้างธุรกิจได้โดยไม่จำเป็นต้องมีทรัพยากรขนาดใหญ่ แพลตฟอร์มอย่าง Instagram, TikTok, Shopify, และ YouTube ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงตลาดได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องมีหน้าร้านจริง
2.3 การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน (Support Systems)
หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีนโยบายส่งเสริม Startup และ SMEs อย่างชัดเจน เช่น โครงการ ยุววิสาหกิจเริ่มต้น (TED Youth Startup) ที่ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนและการพัฒนาทักษะการบริหารธุรกิจ
3. อุปสรรคที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญในการเริ่มต้นธุรกิจ
แม้ว่าการเริ่มต้นธุรกิจจะดูน่าดึงดูด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 อุปสรรคหลัก ที่คนรุ่นใหม่มักพบเจอคือ:
3.1 การเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Access to Capital)
การขาดแหล่งเงินทุนยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ แม้จะมีโครงการสนับสนุนจากภาครัฐ แต่กระบวนการเข้าถึงเงินทุนเหล่านี้ยังคงซับซ้อนและไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม
3.2 การขาดทักษะด้านการบริหารธุรกิจ (Lack of Business Management Skills)
คนรุ่นใหม่จำนวนมากมีไอเดียที่ยอดเยี่ยม แต่ขาดความรู้ด้าน การวางแผนธุรกิจ การจัดการการเงิน การตลาดดิจิทัล และการบริหารทีม ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน
3.3 ความท้าทายในการปรับตัวสู่ยุค AI (Adapting to the AI Era)
ในยุคที่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามาแทนที่งานบางประเภท การเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอยู่รอดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. การศึกษาที่ตอบโจทย์การเป็นเจ้าของธุรกิจยุคใหม่: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม
มหาวิทยาลัยศรีปทุม เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการสร้างธุรกิจ จึงได้เปิดหลักสูตรเฉพาะทางที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล เช่น:
• หลักสูตรสหวิทยาการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่เน้นการใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ
• หลักสูตรการเป็นเจ้าของธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่มุ่งเน้นการสร้าง Startup และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ
• หลักสูตร Upskill และ Reskill สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและตลาด
5. การสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านธุรกิจของคนรุ่นใหม่
การเติบโตของ SMEs และ Startups ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้าง ความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านโมเดลธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อชุมชน เช่น:
• Green Business: ธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม
• Social Enterprise: ธุรกิจที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมควบคู่ไปกับผลกำไร
บทสรุป: การเดินทางของคนรุ่นใหม่สู่โลกธุรกิจ
คนรุ่นใหม่กำลังเขียนบทใหม่ของการทำงานในโลกยุคดิจิทัล จากพนักงานประจำ สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจระดับโลก แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ด้วย ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และการสนับสนุนที่เหมาะสม พวกเขามีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
FAQs: เกินครึ่งของ Gen Z + Gen M ไม่ขอเป็นลูกจ้าง! มุ่งสู่เจ้าของธุรกิจยุคดิจิทัล
1. Q: ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่อยากเป็นพนักงานประจำ?
A: คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ ความยืดหยุ่น (Flexibility) ในการทำงาน พวกเขาต้องการควบคุมเวลาและรูปแบบการทำงานของตัวเอง ไม่ต้องยึดติดกับชั่วโมงงานแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ความต้องการสร้างรายได้หลายช่องทาง (Multiple Income Streams) และความฝันในการเป็นเจ้าของธุรกิจยังผลักดันให้พวกเขาเลือกเส้นทางนี้
2. Q: ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Gen Z และ Millennials เลือกเส้นทางเจ้าของธุรกิจคืออะไร?
A: มี 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1. ความยืดหยุ่น ในการทำงาน
2. การเข้าถึงเทคโนโลยี ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
3. การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน เช่น โครงการส่งเสริม Startup และ SMEs
3. Q: การเริ่มต้นธุรกิจของคนรุ่นใหม่มักเจออุปสรรคอะไรบ้าง?
A: อุปสรรคหลักได้แก่:
• การขาดแหล่งเงินทุน (Funding)
• ขาดทักษะการบริหารธุรกิจ (Business Management Skills)
• การปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI (Adaptation to Technology)
4. Q: การเติบโตของ Startup และ SMEs มีบทบาทอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทย?
A: SMEs คิดเป็น 99% ของธุรกิจในประเทศ และสร้างงานมากกว่า 14 ล้านตำแหน่ง การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ช่วย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้าง นวัตกรรมใหม่ และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น
5. Q: ธุรกิจประเภทไหนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่?
A: ธุรกิจยอดนิยม ได้แก่:
• E-commerce และ แบรนด์ออนไลน์ส่วนตัว
• Startup ด้านเทคโนโลยี เช่น FinTech, HealthTech
• ธุรกิจ Content Creator และ Influencer Marketing
• Green Business และ Social Enterprise ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน
6. Q: หลักสูตรการศึกษามีบทบาทอย่างไรในการสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่?
A: หลักสูตรเช่นที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำคัญ เช่น:
• AI & Data Analytics เพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
• Digital Marketing เพื่อการขยายตลาด
• การบริหารจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) เพื่อสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ
7. Q: สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ ควรเริ่มต้นธุรกิจอย่างไร?
A: เริ่มจากการ:
1. ระบุปัญหาในตลาด (Identify Problems) ที่ต้องการแก้ไข
2. สร้างแผนธุรกิจ (Business Plan) ที่ชัดเจน
3. หาที่ปรึกษา (Mentorship) และเข้าร่วมเครือข่ายผู้ประกอบการ
4. เริ่มจากขนาดเล็ก (Start Small) และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
8. Q: เทคโนโลยี AI มีบทบาทอย่างไรในการช่วยเจ้าของธุรกิจยุคใหม่?
A: AI ช่วยในการ:
• วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) เพื่อทำการตลาดอย่างแม่นยำ
• ระบบอัตโนมัติ (Automation) ที่ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน
• การคาดการณ์แนวโน้มตลาด (Predictive Analytics) เพื่อการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น
9. Q: ธุรกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Business) คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?
A: ธุรกิจยั่งยืน คือธุรกิจที่สร้างรายได้พร้อมกับการคำนึงถึง ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยมลพิษ และส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม ธุรกิจลักษณะนี้ได้รับความนิยมเพราะตอบโจทย์ทั้ง กำไรและความรับผิดชอบต่อโลก
10. Q: มีแหล่งสนับสนุนอะไรบ้างสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ?
A: แหล่งสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่:
• โครงการจากภาครัฐ: เช่น TED Youth Startup ที่สนับสนุนเงินทุนสูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท
• องค์กรเอกชน: ที่ให้คำปรึกษาและการอบรม
• แพลตฟอร์มออนไลน์: สำหรับเรียนรู้ทักษะใหม่ เช่น Coursera, Udemy และ YouTube
ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความเข้าใจที่ครบถ้วนและลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล 😊