ในยุคที่ “แบรนด์บุคคล” (Personal Brand) มีอิทธิพลไม่แพ้แบรนด์องค์กร LinkedIn ได้กลายเป็นเวทีสำคัญที่มืออาชีพจากหลากหลายอุตสาหกรรมใช้สร้างอำนาจทางความคิด (Thought Leadership) สื่อสารประเด็นสำคัญ และวางตำแหน่งตนเองในตลาดอย่างมีชั้นเชิง

สำหรับนักประชาสัมพันธ์ (PR) และนักกลยุทธ์ด้านการสื่อสาร LinkedIn ไม่ใช่แค่ “โซเชียลมีเดีย” ทั่วไป แต่คือ เครื่องมือประชาสัมพันธ์ (PR Tools) ที่ทรงพลังในการบริหารภาพลักษณ์ สื่อสารข้อความสำคัญ และสร้างการรับรู้ที่ตรงเป้าหมาย
1. การเข้าใจ “บทบาทใหม่” ของ LinkedIn ในโลกประชาสัมพันธ์
หากย้อนกลับไป LinkedIn ถูกมองว่าเป็นแค่ “แพลตฟอร์มหางาน” สำหรับผู้บริหารและมืออาชีพ แต่ปัจจุบัน LinkedIn พัฒนาไปไกลกว่านั้น ด้วยฟีเจอร์อย่าง Newsletter, Article, และ Creator Mode ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนกลายเป็น “สื่อ” ของตัวเอง
การเป็น “Influencer” บน LinkedIn ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ต้องมีกลยุทธ์ ทั้งการเลือกหัวข้อที่เหมาะสม การนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่า และการรักษาเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
2. การสร้างตัวตน (Personal Brand) ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร
ในฐานะนักประชาสัมพันธ์ หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือ การทำให้ตัวตนส่วนบุคคล (Personal Brand) สอดคล้องไปกับ ภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Brand)
แนวทางสำคัญ ได้แก่
- กำหนดแก่น (Core Message) ที่จะสื่อ เช่น ความเชี่ยวชาญด้าน “กลยุทธ์ PR”, “การบริหารวิกฤต” หรือ “นวัตกรรมการสื่อสาร”
- เลือกหัวข้อที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กร เช่น การพูดถึงประเด็น CSR, DE&I, เทรนด์เทคโนโลยีที่องค์กรสนใจ
- สร้างความต่อเนื่อง (Consistency) ในการนำเสนอ ทั้งเนื้อหา โทนเสียง และจุดยืน
เช่น หากองค์กรมุ่งสู่ความยั่งยืน เนื้อหาใน LinkedIn ก็ควรพูดถึงบทบาทของ PR ในการขับเคลื่อน ESG หรือการสื่อสารประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสร้างสรรค์
3. การเลือกและสร้างเนื้อหาที่ทรงพลัง (Powerful Content)
สิ่งที่ LinkedIn Influencer ประสบความสำเร็จ คือ “เนื้อหาที่ตอบโจทย์คนฟัง” (Audience-Centric Content) ไม่ใช่แค่พูดถึงตัวเอง
กลยุทธ์สร้างเนื้อหา PR บน LinkedIn ได้แก่:
- Insightful Content: วิเคราะห์เจาะลึก เช่น “อนาคตของ PR ในยุค AI” หรือ “บทเรียนจากวิกฤต PR ระดับโลก”
- Practical Tips: ให้คำแนะนำที่ใช้ได้จริง เช่น “5 วิธีใช้ LinkedIn เสริมแคมเปญ PR ขององค์กร”
- Case Study / บทเรียน (Lessons Learned): แชร์ประสบการณ์จากงานจริง เช่น “เบื้องหลังการจัดการ Crisis Communication ระดับองค์กร”
- Thought Leadership: แสดงมุมมองเฉพาะตัว เช่น “ทำไม PR ยุคใหม่ต้องเข้าใจ Data Analytics”
4. การสร้างเครือข่าย (Networking) และสร้างสัมพันธ์ (Engagement)
หัวใจสำคัญอีกอย่างของการเป็น PR Influencer บน LinkedIn คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า (Meaningful Connections) ไม่ใช่แค่การสะสมยอดผู้ติดตาม
แนวทางเสริมสร้างเครือข่าย ได้แก่:
- โต้ตอบ (Engage) กับผู้เชี่ยวชาญในวงการเดียวกัน เช่น คอมเมนต์ แสดงความคิดเห็นต่อบทความของผู้มีอิทธิพลด้าน PR หรือ C-Level
- การตั้งคำถามที่ชวนคิด (Thought-provoking Questions) เพื่อเปิดวงสนทนา เช่น “คุณคิดอย่างไรกับอนาคตของ PR ในยุค AI?”
- การสนับสนุนเนื้อหาคุณภาพ (Support Valuable Content) ของเพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อสร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ
5. ข้อควรระวัง: การบาลานซ์ระหว่าง “การโปรโมตตัวเอง” และ “การให้คุณค่า”
Influencer หลายคนตกหลุมพรางของ “การขายตัวเอง” มากเกินไป จนสูญเสียความน่าเชื่อถือ
แนวทางเลี่ยงข้อผิดพลาด ได้แก่:
- โฟกัสที่การให้คุณค่า (Value First): แทนที่จะพูดถึงแต่ความสำเร็จส่วนตัว ควรเน้นการแบ่งปันสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาของผู้อ่าน
- หลีกเลี่ยงการโอ้อวด (Humble Brag): ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบสะท้อนบทเรียน มากกว่าการโชว์ความสำเร็จ
6. ใช้ LinkedIn เป็นเครื่องมือ “ประชาสัมพันธ์องค์กร” ผ่านตัวตนบุคคล
แนวโน้มสำคัญ (Key Trend) ที่องค์กรใหญ่เริ่มใช้ คือ การให้ผู้บริหารและนัก PR ในองค์กรเป็นกระบอกเสียง (Corporate Spokesperson) ผ่าน LinkedIn เพื่อส่งสารแทนองค์กรอย่างแยบยล
เช่น การให้ CMO หรือ Head of PR ออกมาแชร์บทเรียนจากแคมเปญใหญ่ หรือการจัดการวิกฤติองค์กร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
บทสรุป: LinkedIn PR Influencer กลยุทธ์ที่นักประชาสัมพันธ์ยุคใหม่ต้องมี
ในโลกที่ PR ไม่ใช่แค่การส่งข่าวประชาสัมพันธ์ไปยังสื่อ แต่คือ “การเป็นสื่อ” ด้วยตนเอง ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล LinkedIn จึงกลายเป็นพื้นที่ทรงพลังที่นักประชาสัมพันธ์สามารถบริหาร “เสียง” ขององค์กร และสร้างอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มเป้าหมาย
LinkedIn ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ “เครื่องมือ” ที่นักประชาสัมพันธ์ทุกคนควรเข้าใจและใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
กลยุทธ์การเป็น Influencer บน LinkedIn ที่ดีจึงไม่ใช่แค่การมีผู้ติดตามจำนวนมาก แต่คือ “การสื่อสารอย่างมีคุณค่า สร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจ และส่งต่อภาพลักษณ์องค์กรอย่างมืออาชีพ”
FAQs: LinkedIn Influencer: อาวุธลับนักประชาสัมพันธ์ยุคใหม่
Q1: LinkedIn Influencer คืออะไร และต่างจาก Influencer บนแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร?
A1: LinkedIn Influencer คือผู้ที่สร้างเนื้อหาคุณภาพ แบ่งปันความรู้และความคิดเห็นเชิงวิชาชีพ จนมีผู้ติดตามและเชื่อถือในวงการเฉพาะทาง ต่างจาก Influencer บนโซเชียลมีเดียอื่นที่เน้นความบันเทิงหรือไลฟ์สไตล์ LinkedIn Influencer มุ่งเน้นสร้างอิทธิพลทางความคิด (Thought Leadership) และความเชี่ยวชาญ
Q2: ทำไมนักประชาสัมพันธ์ต้องสนใจการเป็น LinkedIn Influencer?
A2: เพราะ LinkedIn เป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการสร้าง Personal Brand ที่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กร ช่วยเผยแพร่เนื้อหาที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ PR และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทั้งบุคคลและองค์กร
Q3: ประเภทเนื้อหาแบบไหนที่ควรโพสต์เพื่อเป็น LinkedIn Influencer?
A3: ควรเน้นเนื้อหาที่มีคุณค่า เช่น การวิเคราะห์เทรนด์ PR, กรณีศึกษา (Case Study), คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ (How-to), และมุมมองเชิงลึก (Thought Leadership) ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงประชาสัมพันธ์และธุรกิจ
Q4: โพสต์บ่อยแค่ไหนถึงจะมีโอกาสเป็น Influencer บน LinkedIn?
A4: ควรโพสต์อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมกับการมีส่วนร่วม (Engagement) กับโพสต์ของผู้อื่น เช่น การคอมเมนต์ แชร์ หรือสนทนา เพื่อสร้างการมองเห็นและความสัมพันธ์
Q5: จะทำอย่างไรให้เนื้อหาบน LinkedIn น่าสนใจและโดดเด่น?
A5: ควรเริ่มจากการเขียนหัวข้อที่กระตุ้นความสนใจ (Hook), ใช้โทนมืออาชีพแต่เข้าใจง่าย, ใส่ตัวอย่างจริง (Real Example), และปิดท้ายด้วย Call-to-Action (CTA) เพื่อเชิญชวนให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
Q6: ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการสร้างตัวตนบน LinkedIn มีอะไรบ้าง?
A6: 1) โพสต์เพื่อขายสินค้า/บริการอย่างเดียว, 2) โอ้อวดโดยไม่ให้คุณค่า, 3) ไม่ตอบกลับหรือมีส่วนร่วมกับผู้อื่น, 4) ขาดความสม่ำเสมอในการสร้างเนื้อหา
Q7: LinkedIn ช่วยให้องค์กรได้ประโยชน์ด้านประชาสัมพันธ์อย่างไร?
A7: LinkedIn ช่วยให้องค์กรส่งสารผ่านบุคลากรที่น่าเชื่อถือ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ช่วยผลักดันวาระองค์กร เช่น ESG, นวัตกรรม, วัฒนธรรมองค์กร และช่วยสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ เช่น ผู้บริหาร นักลงทุน
Q8: การสร้างเครือข่าย (Networking) ที่มีประสิทธิภาพบน LinkedIn ควรทำอย่างไร?
A8: สร้างเครือข่ายโดย: 1) ติดต่อผู้เชี่ยวชาญในแวดวง, 2) มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของผู้อื่น, 3) ตอบกลับอย่างมืออาชีพ, 4) เข้าร่วมกลุ่มหรือวงสนทนาเฉพาะทาง (LinkedIn Groups)
Q9: องค์กรควรสนับสนุนพนักงานในการเป็น LinkedIn Influencer อย่างไร?
A9: องค์กรควรให้แนวทางการสื่อสาร (Messaging Guideline), สนับสนุนการฝึกอบรมสร้าง Personal Brand, จัดทำเนื้อหาต้นแบบ (Content Toolkit) และสนับสนุนการเผยแพร่เรื่องราวความสำเร็จ (Success Story)
Q10: อนาคตของ LinkedIn ในงานประชาสัมพันธ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร?
A10: LinkedIn จะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างภาพลักษณ์องค์กรผ่านผู้นำ (Executive Branding), ช่องทาง Crisis Communication, และพื้นที่ Thought Leadership ที่แข่งขันสูงขึ้น องค์กรจึงต้องมี กลยุทธ์ LinkedIn PR ที่ชัดเจนและต่อเนื่อง
เรียบเรียงโดย

สราวุธ บูรพาพัธ
สราวุธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต
จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย