fbpx

Media Literacy ในยุค Deepfake เฟื่องฟู

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยี AI ตรวจจับและสร้างสรรค์เนื้อหากลายเป็นเรื่องท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ “ดีพเฟคส์” (Deepfakes) หรือภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวถูกบิดเบือนหรือปลอมแปลงให้ดูเหมือนจริงจนน่าตกใจ กลายมาเป็นเครื่องมือหลักในการแพร่กระจายข้อมูลเท็จในโลกออนไลน์

deepfake

ในด้านงานประชาสัมพันธ์ ต้องการสร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือองค์กร แต่ในยุคที่การแยกแยะข้อเท็จจริงจากข้อมูลเท็จเริ่มจะเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที ความรู้เรื่องสื่อ (Media Literacy) จึงกลายเป็น “เกราะป้องกัน” ที่สำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับการแพร่กระจายของข้อมูลบิดเบือนเหล่านี้

ดีพเฟคส์: ความจริงที่ยากจะต้านทาน

ลองจินตนาการถึงวิดีโอที่แสดงให้เห็นผู้นำประเทศพูดสิ่งที่เขาไม่เคยพูดมาก่อน หรือภาพถ่ายที่ถูกดัดแปลงให้ดูเหมือนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีขึ้นจริง นี่คือพลังของดีพเฟคส์ที่สามารถบิดเบือนความจริงจนทำให้ผู้ชมหลงเชื่อได้ง่าย ๆ และในยุคนี้ AI ได้ทำให้ความสามารถในการสร้างเนื้อหาเหล่านี้ง่ายดายและแพร่หลายมากขึ้นกว่าเดิม

แม้ว่าเครื่องมือการตรวจจับ AI อย่าง Pindrop, AI Art Detector ของ Maybe หรือ WeVerify จะช่วยให้เราตรวจจับสื่อที่ถูกดัดแปลงได้บ้าง แต่เครื่องมือเหล่านี้ก็ยังมีข้อจำกัดในแง่ของการติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ที่ทำให้ดีพเฟคส์ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก

คลิปต้นฉบับ
ตัวอย่างคลิป DeepFake

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือตรวจจับ AI

ปัจจุบันมีเครื่องมือตรวจจับ AI หลายตัวที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการตรวจสอบและระบุเนื้อหาที่ถูกสร้างหรือดัดแปลงโดย AI โดยเฉพาะเนื้อหาที่เป็นดีพเฟคส์ (Deepfakes) หรือการปลอมแปลงที่มีความซับซ้อน เครื่องมือเหล่านี้มีความสำคัญในการช่วยให้ผู้ใช้งานและองค์กรต่าง ๆ สามารถป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและปกป้องความน่าเชื่อถือของข้อมูล ตัวอย่างของเครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่:

1. Pindrop

  • ความสามารถ: Pindrop เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์เสียงเพื่อระบุและตรวจจับการปลอมแปลงเสียง (Voice Deepfake) เครื่องมือนี้สามารถตรวจสอบได้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของบุคคลจริงหรือถูกสร้างขึ้นโดย AI

2. AI Art Detector ของ Maybe

  • ความสามารถ: เครื่องมือนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยตรวจสอบว่าเนื้อหาภาพที่ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ถูกสร้างหรือดัดแปลงโดย AI หรือไม่ โดยเฉพาะในด้านศิลปะที่มีการใช้ AI เพื่อสร้างภาพที่ดูเหมือนจริง

3. WeVerify

  • ความสามารถ: WeVerify เป็นแพลตฟอร์มที่รวมเครื่องมือหลายชนิดเพื่อช่วยในการตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาออนไลน์ รวมถึงการระบุดีพเฟคส์ เครื่องมือนี้สามารถตรวจสอบภาพถ่าย วิดีโอ และข้อความที่ถูกดัดแปลงได้ โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์และตรวจจับเนื้อหาที่เป็นเท็จ

4. Deepware Scanner

  • ความสามารถ: Deepware Scanner เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับดีพเฟคส์ในวิดีโอ เครื่องมือนี้ใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในการวิเคราะห์เฟรมของวิดีโอและตรวจจับว่ามีการดัดแปลงใบหน้าหรือเสียงที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

5. Sensity AI

  • ความสามารถ: Sensity AI เป็นเครื่องมือที่สามารถตรวจจับดีพเฟคส์และเนื้อหาที่ถูกดัดแปลงได้อย่างแม่นยำ โดยเน้นการตรวจสอบในวิดีโอและภาพถ่ายที่ถูกปลอมแปลงให้ดูเหมือนจริง เครื่องมือนี้ถูกใช้โดยองค์กรต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ

ทำไมความรู้เรื่องสื่อจึงสำคัญกว่าที่เคย?

ในฐานะนักประชาสัมพันธ์ ความสามารถในการแยกแยะข้อมูลจริงจากข้อมูลเท็จเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการรักษาความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ความรู้เรื่องสื่อไม่เพียงแต่ช่วยให้เราตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งขึ้น

ความรู้เรื่องสื่อยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตั้งคำถามและประเมินเนื้อหาที่พวกเขาพบเจอในโลกออนไลน์ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคที่ดีพเฟคส์สามารถสร้างความเข้าใจผิดได้ง่ายดาย

การสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรม AI และความเชื่อถือของแบรนด์

AI สามารถเป็นเครื่องมือที่มีพลังในการสร้างสรรค์เนื้อหา แต่ก็มีความเสี่ยงหากใช้โดยขาดการพิจารณา แบรนด์ที่พึ่งพา AI มากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อถือจากผู้บริโภค หากไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเนื้อหานั้นถูกสร้างโดย AI

การสร้างความโปร่งใสในการใช้งาน AI เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเชื่อถือของแบรนด์ การเปิดเผยให้ผู้บริโภคทราบว่า AI ถูกใช้ในการสร้างเนื้อหาใดบ้าง และการสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอมีคุณภาพและความแท้จริง จะช่วยให้แบรนด์ยังคงรักษาความเชื่อถือได้ในระยะยาว

deepfake

ความรู้เรื่องสื่อ: ทางออกที่แท้จริงในยุคของดีพเฟคส์

แม้ว่าเครื่องมือตรวจจับ AI จะช่วยระบุเนื้อหาที่เป็นเท็จได้บ้าง แต่ทางออกที่แท้จริงคือการเสริมสร้างความรู้เรื่องสื่อให้กับผู้บริโภคทุกคน การเรียนรู้ที่จะตั้งคำถามและตรวจสอบแหล่งข้อมูลอย่างละเอียด จะทำให้เราป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกลวงได้ดีขึ้น

ในยุคของดีพเฟคส์ ความรู้เรื่องสื่อไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นที่เราทุกคนต้องมี เพื่อให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายของโลกดิจิทัลและรักษาความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่เราใช้ในการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน

เมื่อรู้เท่าทันสื่อ ดีพเฟคส์ก็ทำอะไรเราไม่ได้!

เรียบเรียงโดย

sarawut burapapat

สราวุธ บูรพาพัธ

สราวุ​ธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต

จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *