fbpx

PR ต้องโปร! วิธีแก้ไขแถลงการณ์ผิดพลาดให้ไวและได้ผล

ในโลกของการประชาสัมพันธ์ (PR) การสื่อสารที่ถูกต้องและแม่นยำถือเป็นหัวใจสำคัญของความน่าเชื่อถือขององค์กร แต่ถึงแม้จะมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว ก็ยังอาจเกิดข้อผิดพลาดในแถลงการณ์ได้ และเมื่อข้อผิดพลาดเกิดขึ้น วิธีที่องค์กรตอบสนองและแก้ไขปัญหาจะเป็นตัวชี้วัดถึงความเป็นมืออาชีพและความรับผิดชอบ

บทความนี้จะนำเสนอ 4 ขั้นตอนสำคัญ ที่นักประชาสัมพันธ์มืออาชีพและผู้บริหารองค์กรควรใช้ในการแก้ไขข้อผิดพลาดในแถลงการณ์ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร

ประชาสัมพันธ์

1. รับทราบและยอมรับข้อผิดพลาดอย่างรวดเร็ว

เมื่อพบข้อผิดพลาดในแถลงการณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด การใช้ถ้อยคำที่คลุมเครือ หรือการสื่อสารที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด องค์กรต้องรีบรับทราบและยอมรับข้อผิดพลาดโดยไม่ลังเล

ทำไมต้องยอมรับอย่างรวดเร็ว?

  • ลดความเสียหายต่อชื่อเสียง – การนิ่งเฉยหรือปฏิเสธข้อผิดพลาดอาจทำให้ปัญหาบานปลาย
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ – การยอมรับผิดแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบ
  • ควบคุมการสื่อสาร – หากองค์กรไม่รีบจัดการ ฝ่ายอื่นอาจนำเรื่องไปขยายผลจนเกิดความเสียหายมากขึ้น

ตัวอย่างการตอบสนองที่ดี

หากองค์กรพลาดให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ควรออกแถลงการณ์เพิ่มเติม เช่น
“เราตระหนักถึงข้อผิดพลาดในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ และขออภัยในความผิดพลาด เรากำลังดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว”

2. แก้ไขข้อผิดพลาดด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน

เมื่อรับทราบปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแทนที่

แนวทางการแก้ไข

  • ตรวจสอบข้อผิดพลาดให้แน่ชัด – ระบุว่าข้อผิดพลาดเกิดจากอะไร และส่งผลกระทบอย่างไร
  • ใช้ถ้อยคำที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา – หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ยุ่งยากหรือดูเหมือนการปกปิด
  • แจกแจงรายละเอียดของการแก้ไข – อธิบายว่าข้อมูลที่ถูกต้องคืออะไร และเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่างแถลงการณ์แก้ไข

“จากแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2025 เราขอแก้ไขข้อมูลเป็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 และขออภัยในความสับสนที่อาจเกิดขึ้น”

3. สื่อสารกับสื่อมวลชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างโปร่งใส

ข้อผิดพลาดในแถลงการณ์อาจส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของสื่อมวลชน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังนั้นองค์กรต้องสื่อสารกับทุกฝ่ายอย่างเปิดเผย

แนวทางการสื่อสาร

  • แจ้งข้อมูลที่ถูกต้องไปยังสื่อมวลชนโดยตรง – ส่งอีเมลหรือแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
  • ใช้ช่องทางที่เหมาะสม – หากข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ก็ควรโพสต์คำชี้แจงบนช่องทางนั้น
  • จัดให้มีโอกาสสอบถามเพิ่มเติม – เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวอย่างการสื่อสาร

“เราเข้าใจว่าข้อผิดพลาดนี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า และเราขออภัยสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น ทีมของเราพร้อมที่จะตอบคำถามเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง”

4. ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบแถลงการณ์เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในอนาคต

สุดท้าย องค์กรควรใช้โอกาสนี้เป็นบทเรียนในการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดซ้ำ

กลยุทธ์ป้องกันข้อผิดพลาด

  • สร้างทีมตรวจสอบภายใน – ให้มีบุคคลที่สามภายในองค์กรตรวจสอบแถลงการณ์ก่อนเผยแพร่
  • ใช้เครื่องมือช่วยตรวจสอบ – เช่น AI หรือซอฟต์แวร์สำหรับการตรวจสอบข้อผิดพลาดด้านภาษาและข้อเท็จจริง
  • อบรมทีมประชาสัมพันธ์ – เพิ่มความเข้าใจเรื่องการใช้ภาษาที่ถูกต้องและการบริหารวิกฤต

ตัวอย่างแนวทางการปรับปรุง

“เราจะเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบแถลงการณ์โดยให้ทีมกฎหมายและฝ่ายประชาสัมพันธ์ร่วมกันตรวจสอบก่อนเผยแพร่ทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง 100%”

บทสรุป

ข้อผิดพลาดในแถลงการณ์อาจเกิดขึ้นได้กับทุกองค์กร แต่สิ่งสำคัญคือ วิธีที่องค์กรจัดการกับข้อผิดพลาดนั้น การยอมรับผิด แก้ไขอย่างรวดเร็ว สื่อสารกับสื่อมวลชนอย่างโปร่งใส และปรับปรุงกระบวนการทำงาน จะช่วยรักษาความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ขององค์กรในระยะยาว

ในฐานะนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพและผู้บริหารองค์กร การจัดการข้อผิดพลาดอย่างเป็นระบบถือเป็น ทักษะสำคัญ ที่จะช่วยให้องค์กรก้าวข้ามวิกฤต และสร้างความไว้วางใจจากสาธารณชนได้อย่างมั่นคง


FAQs: PR ต้องโปร! วิธีแก้ไขแถลงการณ์ผิดพลาดให้ไวและได้ผล

1. ทำไมการแก้ไขแถลงการณ์ผิดพลาดอย่างรวดเร็วถึงสำคัญ?

A1: การแก้ไขอย่างรวดเร็วช่วยลดผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร ป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิดพลาด และสร้างความไว้วางใจจากสาธารณชน

2. องค์กรควรใช้ช่องทางไหนในการประกาศแก้ไขแถลงการณ์?

A2: ควรใช้ช่องทางเดียวกับที่เผยแพร่แถลงการณ์เดิม เช่น เว็บไซต์องค์กร โซเชียลมีเดีย หรือการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลใหม่เข้าถึงผู้รับสารทุกกลุ่ม

3. หากข้อผิดพลาดในแถลงการณ์มีผลกระทบต่อบุคคลภายนอก ควรทำอย่างไร?

A3: องค์กรควรออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ และเสนอแนวทางแก้ไข เช่น การชดเชย หรือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพิ่มเติม

4. ควรใช้ภาษาสไตล์ไหนในการแก้ไขแถลงการณ์ผิดพลาด?

A4: ควรใช้ภาษาที่ ตรงไปตรงมา ชัดเจน และโปร่งใส หลีกเลี่ยงการใช้คำที่อาจทำให้ดูเหมือนการปกปิดข้อผิดพลาด

5. มีแนวทางป้องกันข้อผิดพลาดในแถลงการณ์ประชาสัมพันธ์อย่างไร?

A5: ควรมีทีมตรวจสอบแถลงการณ์ก่อนเผยแพร่ ใช้เครื่องมือตรวจสอบข้อผิดพลาด และอบรมทีมประชาสัมพันธ์ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้ภาษาและข้อเท็จจริง

6. ถ้าองค์กรไม่ยอมรับข้อผิดพลาดและปล่อยให้ปัญลาขยายตัว จะเกิดอะไรขึ้น?

A6: องค์กรอาจเสียความน่าเชื่อถือ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย และทำให้เกิดวิกฤตด้านภาพลักษณ์ที่ยากต่อการกู้คืน

7. เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น นักประชาสัมพันธ์ควรสื่อสารกับผู้บริหารอย่างไร?

A7: ควรนำเสนอข้อผิดพลาดพร้อมแนวทางแก้ไขอย่างชัดเจนและมีข้อมูลสนับสนุน เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

8. การออกแถลงการณ์แก้ไขข้อผิดพลาดควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?

A8: ควรมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1️⃣ ยอมรับข้อผิดพลาด
2️⃣ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
3️⃣ อธิบายแนวทางแก้ไขและการป้องกันในอนาคต

9. มีตัวอย่างองค์กรที่จัดการข้อผิดพลาดด้านประชาสัมพันธ์ได้ดีหรือไม่?

A9: ตัวอย่างที่ดีคือ Airbnb ที่เคยออกแถลงการณ์ผิดพลาดเกี่ยวกับนโยบายด้านความปลอดภัย แต่พวกเขาแก้ไขโดยการรับผิดชอบเต็มที่ และเสนอแนวทางปรับปรุงบริการอย่างโปร่งใส

10. หากข้อผิดพลาดในแถลงการณ์เกิดจากบุคคลในองค์กร ควรจัดการอย่างไร?

A10: ควรแก้ไขแถลงการณ์โดยไม่กล่าวโทษบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และเน้นไปที่กระบวนการปรับปรุงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ

เรียบเรียงโดย

sarawut burapapat

สราวุธ บูรพาพัธ

สราวุ​ธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต

จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *