fbpx

TCP x BIG จับมือปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยพลังงานสะอาด ก้าวแรกสู่ Net Zero

เมื่อโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ภาคอุตสาหกรรมจึงกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ต้องปรับตัวเพื่อความยั่งยืน ความร่วมมือระหว่าง กลุ่มธุรกิจ TCP และ บีไอจี (BIG) ในการใช้ ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ ในกระบวนการผลิตเครื่องดื่ม นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรมไทยจากผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปสู่ภาคการผลิตที่ยั่งยืน

นี่ไม่ใช่แค่การทำ CSR หรือการตลาดสีเขียว (Green Marketing) แต่คือสัญญาณบ่งบอกว่า “ความยั่งยืน” ได้กลายเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ การใช้ก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงกว่า 50% แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของธุรกิจในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไทย

tcp

มิติทางเศรษฐกิจ: การแข่งขันในยุคคาร์บอนต่ำ

การจับมือระหว่าง TCP และ BIG ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงการด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจในหลายมิติ

1. Carbon Tax กับโอกาสทางการค้าใหม่

ในยุคที่ กฎหมายภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) และกลไกปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรป กำลังเข้มงวดขึ้น บริษัทที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทานจะได้เปรียบทางการค้า หาก TCP สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ได้จริง นั่นหมายความว่า สินค้าของ TCP จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น ลดต้นทุนภาษี และเพิ่มโอกาสทางการค้ากับประเทศที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวด

2. Smart Manufacturing: การลงทุนที่คุ้มค่าระยะยาว

การเปลี่ยนไปใช้ก๊าซอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอาจเพิ่มต้นทุนในระยะสั้น แต่หากมองในระยะยาว นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดของเสีย และสร้าง Smart Manufacturing ที่สามารถตอบโจทย์ตลาดในอนาคต

3. อุตสาหกรรมไทยต้องเร่งปรับตัว

หากผู้เล่นรายใหญ่เช่น TCP เริ่มต้นก่อน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยก็ต้องเร่งปรับตัว เพราะหากไม่เปลี่ยน อุตสาหกรรมไทยอาจถูกกีดกันจากตลาดโลก และกลายเป็นผู้เล่นที่ล้าหลัง

tcp

มิติทางสังคม: เมื่อผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

1. ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จากรายงานของ Deloitte Global 2023 Sustainability Report พบว่า 75% ของผู้บริโภคทั่วโลกยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ที่ผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Label)

TCP และ BIG กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม โดยทำให้ “ความยั่งยืน” เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

2. พนักงานต้องการทำงานกับองค์กรที่ใส่ใจโลก

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทดึงดูด Talent หรือคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง คือการเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายชัดเจนในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การที่ TCP และ BIG มุ่งเน้นเรื่อง Net Zero จึงไม่เพียงแต่ช่วยโลก แต่ยังช่วยดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

tcp

มิติทางสิ่งแวดล้อม: ก๊าซคาร์บอนต่ำกับอนาคตของ Net Zero

1. การใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ: ก้าวแรกสู่ Net Zero

ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำที่ TCP เลือกใช้ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไนโตรเจนทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซในขอบเขตที่ 3 (Scope 3) ซึ่งเป็นการปล่อยก๊าซทางอ้อมจากกระบวนการผลิต

2. เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050

TCP ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ปัจจุบันสามารถลดการปล่อยก๊าซได้แล้วกว่า 10% และใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่า 80% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าธุรกิจไทยสามารถก้าวไปสู่ Net Zero ได้จริงหากมีแผนที่ชัดเจน

3. BIG: ผู้นำอุตสาหกรรมก๊าซคาร์บอนต่ำของไทย

บีไอจีเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองว่าก๊าซที่ผลิตสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไทยสามารถเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมก๊าซสะอาดระดับโลก หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม

tcp

บทสรุป: อุตสาหกรรมไทยต้องเร่งปรับตัวเพื่อความยั่งยืน

ข้อตกลงระหว่าง TCP และ BIG ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความร่วมมือทางธุรกิจ แต่คือจุดเริ่มต้นของ “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ในอุตสาหกรรมไทย

หากภาคธุรกิจไทยยังคงดำเนินธุรกิจแบบเดิม ๆ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อาจเสี่ยงต่อการถูกกีดกันทางการค้า และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ทางออกของอุตสาหกรรมไทย คืออะไร?

  • รัฐบาลต้องมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจที่ใช้พลังงานสะอาด
  • ธุรกิจต้องลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว เพื่อให้สามารถแข่งขันในยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
  • ผู้บริโภคต้องใช้พลังซื้อกดดันตลาด ให้แบรนด์ต่าง ๆ ปรับตัวสู่ความยั่งยืน

สุดท้ายนี้ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คืออนาคตของอุตสาหกรรมไทย และการที่ TCP และ BIG ก้าวนำหน้าไปก่อน อาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เกมธุรกิจยุคใหม่ จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด


FAQs: TCP x BIG กับก้าวแรกสู่ Net Zero

1. ความร่วมมือระหว่าง TCP และ BIG คืออะไร?

A1: กลุ่มธุรกิจ TCP และ บีไอจี (BIG) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการใช้ ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ ในกระบวนการผลิต เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero

2. ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำคืออะไร และดีกว่าไนโตรเจนทั่วไปอย่างไร?

A2: ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำเป็นก๊าซไนโตรเจนที่ผลิตด้วยกระบวนการที่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไนโตรเจนทั่วไป

3. ทำไม TCP ถึงเลือกใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ?

A3: TCP มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 โดยต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด ปัจจุบัน TCP สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ลงแล้วกว่า 10% และใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 80%

4. การใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำส่งผลต่อผู้บริโภคอย่างไร?

A4: ผู้บริโภคจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และช่วยสนับสนุนธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อโลก

5. ความร่วมมือนี้มีผลต่ออุตสาหกรรมไทยอย่างไร?

A5: เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยให้เข้าสู่ยุค Green Industry และช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวด

6. Carbon Tax มีผลต่อธุรกิจอย่างไร และการใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำช่วยได้อย่างไร?

A6: Carbon Tax คือภาษีที่เก็บจากธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง หากธุรกิจไทยไม่ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ อาจต้องเสียภาษีเพิ่ม ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น การใช้ไนโตรเจนคาร์บอนต่ำช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อยคาร์บอน และหลีกเลี่ยงต้นทุนภาษีในอนาคต

7. นโยบาย Net Zero ของ TCP มีอะไรบ้าง?

A7: TCP มีเป้าหมายหลัก 4 ด้าน ได้แก่

1. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ – ใช้พลังงานสะอาดและวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

2. เศรษฐกิจหมุนเวียน – ลดของเสียและรีไซเคิลวัสดุ

3. เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ – ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

4. การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน – ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต

8. BIG มีบทบาทสำคัญอย่างไรในอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำของไทย?

A8: BIG เป็นผู้ผลิตก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำเจ้าแรกของไทยที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และกำลังขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “Generating a Cleaner Future”

9. ความร่วมมือนี้ถือเป็น CSR หรือไม่?

A9: ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็น Core Business Strategy TCP และ BIG มุ่งมั่นลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพื่อภาพลักษณ์ แต่เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมไทย

10. อุตสาหกรรมไทยควรทำอย่างไรเพื่อตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงนี้?

A10: อุตสาหกรรมไทยต้องเร่งปรับตัว โดย

• ลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด

• ใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• ปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับนโยบาย Carbon Neutrality และ Net Zero

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *